สื่อต่างประเทศชี้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เผชิญภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ส่งผลให้ อินโดนีเซีย ไทย และมาเลเซีย จมบาดาล มีผู้เสียชีวิตรวมแล้วกว่า 300 คน และหลายชุมชนถูกตัดขาด

อินโดนีเซียยอดดับพุ่ง 174 ราย หน่วยกู้ภัยยังเข้าไม่ถึงหลายหมู่บ้าน

ที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เจ้าหน้าที่ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 174 ราย และสูญหายเกือบ 80 คน ขณะที่ฝนตกต่อเนื่องทำให้การเข้าพื้นที่เป็นไปอย่างยากลำบากสำนักงานบรรเทาสาธารณภัยอินโดนีเซียเตือนว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้น เพราะยังมีหลายหมู่บ้านที่ถูกตัดขาดทั้งถนนและสัญญาณสื่อสาร

เจ้าหน้าที่รัฐบาลยอมรับว่าสภาพอากาศทำให้การนำเฮลิคอปเตอร์เข้าช่วยเหลือล่าช้า และยังมีความเสี่ยงดินถล่มเพิ่มในหลายพื้นที่ ขณะที่นักพยากรณ์อากาศเตือนว่า สุมาตรายังคงมีฝนตกเพิ่ม แม้ความรุนแรงอาจลดลง แต่พื้นที่ที่ดินอิ่มน้ำแล้วเสี่ยงท่วมซ้ำและดินถล่มอีกหลายจุด 

ภาคใต้ของไทยอ่วมหนัก ดับแล้ว 145 ราย ต้องใช้รถห้องเย็นเก็บศพ

ภาคใต้ของไทย โดยเฉพาะหาดใหญ่และสงขลา เผชิญน้ำท่วมรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปี ระดับน้ำพุ่งสูงจนชาวบ้านต้องหนีขึ้นไปบนหลังคาบ้านเพื่อรอเรือกู้ภัย ล่าสุดรัฐบาลไทยเผยยอดผู้เสียชีวิตแล้ว 145 ราย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ต้องนำรถบรรทุกห้องเย็น มาช่วยเก็บศพ หลังห้องเก็บศพเต็มความจุ

ชาวบ้านบางส่วนเล่าว่า น้ำมาเร็วมากและขึ้นไปถึงเพดานชั้นสอง ร้านถูกน้ำท่วมและถูกปล้นสินค้า เสียหายมหาศาล

มาเลเซียท่วมฉับพลันในปะลิส เสียชีวิตแล้ว 2 ราย

ในรัฐปะลิส ประเทศมาเลเซีย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย หลังฝนหนักทำให้พื้นที่ตอนเหนือจมใต้น้ำ

...

ผู้เชี่ยวชาญชี้ชัด ภาวะโลกรวนทำให้ "พายุแรง–ฝนถล่ม–น้ำท่วมฉับพลัน" เกิดถี่ขึ้น

นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ฤดูมรสุมรุนแรงขึ้น พายุเคลื่อนตัวช้าลงและก่อฝนปริมาณมากกว่าปกติน้ำทะเลที่อุ่นขึ้นยังเร่งพลังให้พายุมีความรุนแรงสูงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของฝนหนักและลมแรงในปีนี้ โดยเหตุการณ์สุดขั้วแบบนี้จะยิ่งหนักและถี่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้น.


ที่มา : channelnewsasia

คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ น้ำท่วม