ราอูล โรชา ประธานและเจ้าของร่วมองค์กรมิสยูนิเวิร์สถูกสำนักงานอัยการสูงสุดเม็กซิโก ตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการ ฐานต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการเป็นผู้นำองค์กรอาชญากรรมที่ลักลอบค้ายาเสพติด, อาวุธสงคราม และน้ำมันเถื่อนระหว่างกัวเตมาลาและเม็กซิโก รายงานดังกล่าวถูกเปิดเผยท่ามกลางมรสุมความขัดแย้งที่ถาโถมเข้าใส่เวทีมิสยูนิเวิร์สในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

หนังสือพิมพ์ Reforma ของเม็กซิโก รายงานว่า ราอูล โรชา นักธุรกิจชาวเม็กซิกันซึ่งดำรงตำแหน่งประธานและเจ้าของร่วมขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส และยังเป็นเจ้าหน้าที่กงสุลของกัวเตมาลาในเม็กซิโก ถูกสำนักงานอัยการสูงสุดเม็กซิโก ตั้งข้อหาและมองว่าเป็นผู้นำองค์กรอาชญากรรม

องค์กรดังกล่าวถูกกล่าวหาว่าลักลอบขนน้ำมันเชื้อเพลิงทางเรือผ่านแม่น้ำอุซูมาซินตา ก่อนจะขนส่งต่อด้วยรถบรรทุกไปยังเมืองเกเรตาโร ประเทศเม็กซิโก

ตามรายงานของ Reforma เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ยัสมิน มาโยรัล มาริน เจ้าหน้าที่ในสำนักงานอัยการพิเศษเพื่อปราบปรามอาชญากรรมองค์กรของเม็กซิโก ได้ร้องขอหมายจับนายโรชาในข้อหาอาชญากรรมองค์กร สืบเนื่องจากความเกี่ยวข้องในการค้ายาเสพติดและอาวุธปืน

ส่วนหนึ่งของการสอบสวน สำนักงานอัยการได้บุกค้นบ้านพักหลายแห่ง ซึ่งพวกเขาอ้างว่ายึดหลักฐานบันทึกการบริจาคเงินของนายโรชาให้กับองค์กรอาชญากรรม โดยมีการบันทึกยอดเงินบริจาคหนึ่งครั้งรวมมูลค่า 2.1 ล้านเปโซ

ในหมายจับที่ Reforma ได้รับมานั้นสำนักงานอัยการอ้างว่า สมาชิกขององค์กรอาชญากรรมที่นายโรชาถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้นำ "มีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลทั้งสามระดับ เพื่อดำเนินภารกิจของตนโดยเจตนา ซึ่งรวมถึงการจำหน่ายน้ำมัน, ยาเสพติด, และการลักลอบค้าและจำหน่ายอาวุธสงครามในปริมาณมาก"

...

Reforma อ้างแหล่งข่าวของรัฐบาลกลางว่า นายโรชาได้ติดต่อสำนักงานอัยการสูงสุด ในเดือนตุลาคมเพื่อเจรจาขอรับสารภาพแลกกับการได้รับความคุ้มกันจากการดำเนินคดี ทั้งนี้ นายโรชาและตัวแทนขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ

ข่าวการตั้งข้อหาต่อนายโรชาเป็นเพียงหนึ่งในข่าวฉาวล่าสุดที่ถาโถมเข้าใส่เวทีมิสยูนิเวิร์สทั้งก่อนและหลังการประกวดรอบสุดท้ายเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา:

โดยเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ผู้เข้าประกวดหลายคนได้วอล์คเอาต์ออกจากงานพรีอีเวนต์ หลังจากที่ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผู้บริหารกองประกวดได้ตำหนิออกสื่อต่อ ฟาติมา บอช นางงามจากเม็กซิโก (ซึ่งต่อมาเป็นผู้ชนะ) ว่าปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการถ่ายภาพสำหรับโซเชียลมีเดีย ซึ่งหลังจากนั้น นายโรชาได้ลงโทษณวัฒน์ โดยจำกัดไม่ให้เข้าร่วมการประกวดรอบสุดท้าย

นอกจากนั้น สามวันก่อนการประกวด โอมาร์ ฮาร์ฟูช  ได้ประกาศลาออกจากการเป็นคณะกรรมการตัดสิน โดยกล่าวหาผ่านโซเชียลมีเดียว่า องค์กรมิสยูนิเวิร์ส ได้จัดตั้ง "คณะกรรมการชั่วคราว" เพื่อคัดเลือกผู้เข้ารอบ 30 คนสุดท้าย ก่อนที่ผู้เข้าประกวดจาก 136 ประเทศจะได้ขึ้นเวทีในรอบคัดเลือก โดยกองประกวดได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

ฮาร์ฟูชยังอ้างว่า ผู้เข้าประกวดรายหนึ่งมีความสัมพันธ์กับคณะกรรมการคัดเลือกของกองประกวด และเขาตัดสินใจลาออกหลังจากขอให้นายโรชาแสดงความ "โปร่งใส" แต่ถูกปฏิเสธ

ทั้งนี้ ในการให้สัมภาษณ์กับนักข่าวชาวเม็กซิกันเกี่ยวกับสถานการณ์ของการประกวดเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน นายโรชาเคยยอมรับว่าเขา "เบื่อหน่ายมาก" หลังจากเข้าซื้อกิจการกองประกวดเมื่อเดือนมกราคม 2024 และกำลัง "มองหาใครบางคนที่จะโอนกิจการให้".


ที่มา PEOPLE