ทางการฟิลิปปินส์รวบ 7 ผู้ต้องสงสัย และอยู่ระหว่างตามล่าอีกหลายราย ในคดีทุจริตโครงการป้องกันน้ำท่วมมูลค่านับแสนล้านบาท ด้านประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ลั่นจะดำเนินคดีนักการเมืองและเจ้าของบริษัทก่อสร้างที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก่อนช่วงคริสต์มาส เพื่อดับความโกรธแค้นของประชาชน
ทางการฟิลิปปินส์ได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องสงสัย 7 ราย และกำลังตามล่าผู้ที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก ในคดีฉาวเกี่ยวกับการทุจริตโครงการควบคุมน้ำท่วมครั้งใหญ่ ที่สร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงแก่สาธารณชน
ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ได้ออกมายืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะปราบปรามความผิดปกติที่พัวพันกับสมาชิกสภาคองเกรสผู้ทรงอิทธิพล เนื่องจากมีการกล่าวโทษว่าการทุจริตอย่างกว้างขวาง เป็นสาเหตุที่ทำให้โครงการควบคุมน้ำท่วมในประเทศถูมองว่าด้อยคุณภาพหรือไม่มีอยู่จริง
ผู้ต้องสงสัยชุดแรกจำนวนกว่าสิบคน รวมถึง ซัลดี โค อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวิศวกรโยธาของรัฐบาล ถูกศาลต่อต้านการทุจริตพิเศษ Sandiganbayan ฟ้องร้องแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเป็นคดีแรกจากอีกหลายสิบคดีอาญาเกี่ยวกับการทุจริตที่ประธานาธิบดีมาร์กอสให้คำมั่นว่าจะนำสมาชิกรัฐสภาและเจ้าของบริษัทก่อสร้างร่ำรวยที่เกี่ยวข้องเข้าสู่เรือนจำให้ได้ก่อนเทศกาลคริสต์มาส
คดีทุจริตชุดแรกนี้เกี่ยวข้องกับความผิดปกติในโครงการควบคุมน้ำท่วมในจังหวัดมินโดโรตะวันออก รวมถึงโครงการเขื่อนริมแม่น้ำมูลค่า 289 ล้านเปโซ ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท Sunwest Corp. ที่เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นของครอบครัวของนายโค
ประธานาธิบดีมาร์กอสเปิดเผยว่า มีผู้ต้องสงสัยถูกจับกุม 1 ราย และอีก 6 รายมอบตัวกับตำรวจในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผู้ที่ถูกจับกุมรายหนึ่ง ถูกพบที่บ้านในเขตเกซอนซิตี้ และมีการจับกุมผู้ที่พยายามให้ความช่วยเหลือซ่อนตัวผู้ต้องสงสัยด้วย
...
"คำแนะนำของผมสำหรับผู้ต้องสงสัยที่เหลือคือให้ทุกคนมอบตัว อย่ารอให้ถูกไล่ล่า" ประธานาธิบดีมาร์กอสระบุผ่านทางเฟซบุ๊กว่า "เรื่องนี้จะดำเนินต่อไป เราจะไม่หยุด"
นายจอนวิค เรมุลลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ไม่ทราบที่อยู่ของนายซัลดี โค ซึ่งเชื่อว่าอยู่ต่างประเทศ แต่ผู้ต้องสงสัยอีกสามรายอาจจะมอบตัวต่อสถานทูตฟิลิปปินส์ในสหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ และจอร์แดนในไม่ช้า เพื่อเดินทางกลับประเทศ "ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดในโลก เราจะตามหาคุณ" นายเรมุลลากล่าวย้ำในการแถลงข่าว พร้อมแสดงภาพถ่ายของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในชุดนักโทษสีส้ม
มีพยานให้การในการไต่สวนของวุฒิสภา และในคณะกรรมการสืบสวนอิสระที่จัดตั้งโดยประธานาธิบดีมาร์กอส ว่าอดีตและวุฒิสมาชิก รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายคน ได้รับเงินสินบนก้อนโตจากบริษัทก่อสร้างที่ได้รับสัมปทานโครงการควบคุมน้ำท่วมอย่างไม่ถูกต้องเป็นเวลาหลายปี
ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าพัวพันในคดีนี้ยังรวมถึง สส. มาร์ติน โรมูอัลเดซ ลูกพี่ลูกน้องและพันธมิตรคนสำคัญของประธานาธิบดี ซึ่งได้ปฏิเสธความเกี่ยวข้อง แต่ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว นอกจากนี้ยังมี อดีตประธานวุฒิสภา ชิซ เอสคูเดโร ที่ถูกกล่าวหาว่ารับสินบนและได้ลาออกจากตำแหน่งไปแล้ว แต่ยังคงปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าไม่ได้กระทำผิด
ความมั่งคั่งฟุ่มเฟือยของกลุ่มผู้ต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็นคฤหาสน์ เงินสด และกองรถหรู รวมถึงเครื่องบินส่วนตัว เป็นชนวนให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ โดยการเดินขบวนครั้งต่อไปที่มีกำหนดในวันที่ 30 พฤศจิกายน ได้รับการสนับสนุนจากคริสตจักรคาทอลิกหลักในประเทศ
ปัจจุบัน มีโครงการควบคุมน้ำท่วมอย่างน้อย 9,855 โครงการ มูลค่ากว่า 545,000 ล้านเปโซ (ประมาณ 299,616 ล้านบาท) ที่ควรจะดำเนินการตั้งแต่ประธานาธิบดีมาร์กอสเข้ารับตำแหน่งเมื่อกลางปี 2022 กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา นายราล์ฟ เรคโต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุต่อสมาชิกนิติบัญญัติว่า เงินงบประมาณสำหรับโครงการควบคุมน้ำท่วมมากถึง 118,500 ล้านเปโซ (ประมาณ 65,145 ล้านบาท) อาจสูญหายไปจากการทุจริตตั้งแต่ปี 2023 นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังระบุว่า ความผิดปกตินี้อาจเริ่มต้นขึ้นในสมัยรัฐบาลชุดก่อนของอดีตประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต และโครงการควบคุมน้ำท่วมที่ดำเนินการในช่วงเวลานั้นก็จะถูกสอบสวนเช่นกัน.
ที่มา AP