นักแสดงตลกชาวฟิลิปปินส์ คิราย เซลิส (Kiray Celis) กำลังเผชิญเสียงวิจารณ์จากชาวฟิลิปปินส์ที่อาศัยในญี่ปุ่น หลังโพสต์ภาพพรีเวดดิ้งที่ถ่ายในย่านโดทงโบริ นครโอซากา ซึ่งหนึ่งในภาพที่ถูกลบไปแล้วปรากฏว่าเธอนั่งอยู่บนตู้กดน้ำอัตโนมัติ ทำให้บางคนมองว่าเป็นการไม่เคารพกฎระเบียบและทรัพย์สินสาธารณะของญี่ปุ่น

ภาพดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเซตภาพพรีเวดดิ้งกับคู่หมั้น สเตฟาน เอสโทเปีย (Stephan Estopia) ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน และถ่ายโดยทีม Metrophoto หลังเผยแพร่ได้ไม่นาน ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก โดยเฉพาะชาวฟิลิปปินส์ในญี่ปุ่น ออกมาแสดงความไม่พอใจ

ชาวฟิลิปปินส์ที่ทำงานในญี่ปุ่นรายหนึ่งแสดงความเห็นอย่างดุดันว่า "ไม่ใช่ว่าคุณเป็นดารา เป็นคนรวย แล้วคุณจะมีสิทธิ์ที่จะดูถูกสถานที่ที่คุณไปเยือน คุณเป็นเพียงผู้มาเยือน สิ่งสำคัญที่สุดที่นี่คือการเคารพวัฒนธรรมและชาวญี่ปุ่น"

ชาวฟิลิปปินส์รายเดิมเสริมว่า "นี่คือเหตุผลที่ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากไม่พอใจชาวต่างชาติ (ไกจิน) และทำให้พวกเราที่ทำงานอย่างสงบเรียบร้อยในญี่ปุ่นต้องเดือดร้อนไปด้วย คุณนำพฤติกรรมแบบนี้มาถึงญี่ปุ่น มันน่าละอายมาก"

ชาวฟิลิปปินส์อีกรายที่อาศัยและทำงานในญี่ปุ่นมาหลายปีระบุว่า "ปัญหาเกี่ยวกับการต่อต้านชาวต่างชาติจำนวนมากสามารถหลีกเลี่ยงได้ เพียงแค่ทุกคนแสดงความเคารพต่อกฎระเบียบ วัฒนธรรม และค่านิยมของญี่ปุ่น เมื่อเราแสดงความมีวินัย ความถ่อมตน และความกตัญญู เราจะไม่เพียงได้รับความเคารพเท่านั้น แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความชื่นชมอีกด้วย ดังนั้นจงมุ่งมั่นที่จะเป็นแขกที่น่าเคารพ เพื่อนบ้านที่ดี และเป็นตัวแทนที่มีเกียรติของประเทศเรา"

หลังดราม่าขยายวง เซลิสออกมาชี้แจงว่าเธอและคู่หมั้นได้รับอนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่นในญี่ปุ่นสำหรับการถ่ายทำพรีเวดดิ้งทั้งหมด รวมถึงภาพที่เป็นประเด็นด้วย เธอกล่าวระหว่างการออกงานเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนว่า "เราได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ไม่มีใครเดือดร้อน และตอนถ่ายทำก็ไม่มีใครโกรธหรือว่าเราเลย ขออภัยชาวฟิลิปปินส์ และชาวฟิลิปปินส์ที่ทำงานในญี่ปุ่นทุกคน แต่ไม่ต้องโกรธกันแล้ว"

...

นักแสดงรายนี้ยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญ และหากย้อนทำใหม่ได้ เธอจะคิดให้รอบคอบกว่านี้ "ฉันคิดมาตลอดว่ามันเป็นเรื่องเล็ก ๆ สำหรับตัวเองและเพื่อน ๆ แต่สำหรับบางคนมันเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ ขออภัยอย่างมาก และสัญญาว่าจะไม่ทำให้ใครรู้สึกไม่สบายใจอีก เพราะนี่เป็นเรื่องของความรัก และฉันรักทุกคน"

ดราม่าดังกล่าวยังคงเป็นที่ถกเถียงในหมู่ชาวฟิลิปปินส์ในญี่ปุ่น โดยหลายคนมองว่าเป็นกรณีที่สะท้อนความอ่อนไหวด้านวัฒนธรรมและการเป็นผู้มาเยือนที่ต้องรักษากฎระเบียบในต่างประเทศ.


ที่มา INQUIRER.net / Interaksyon