ยูเครนเปิดเผยว่า การโจมตีของรัสเซียในช่วงข้ามคืน ซึ่งมุ่งเป้าไปที่กรุงเคียฟ คร่าชีวิตประชาชน 4 คน และสร้างความเสียหายต่ออาคารหลายแห่งทั่วเมือง ท่ามกลางการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่รุนแรงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะโรงไฟฟ้า ระบบรถไฟ และพื้นที่อยู่อาศัย
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า "นี่เป็นการโจมตีที่ผ่านการคำนวณมาแล้วโดยหวังสร้างความเสียหายสูงสุดต่อประชาชนและโครงสร้างพื้นฐานพลเรือน" โดยการโจมตีครั้งนี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 26 คน รวมถึงหญิงตั้งครรภ์หนึ่งราย
เซเลนสกีระบุว่า รัสเซียยิงโดรนประมาณ 430 ลำ และขีปนาวุธ 18 ลูกในการโจมตีครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีในพื้นที่เผยถึงการยิงกระสุนส่องวิถีเพื่อสกัดโดรน และมีการใช้ระบบต่อต้านขีปนาวุธหลายจุด
ทิมูร์ ตคาเชนโก หัวหน้าการบริหารการทหารกรุงเคียฟระบุผ่านโซเชียลมีเดียว่า "มีอาคารชุดหลายแห่งทั่วกรุงเคียฟได้รับความเสียหาย แทบทุกเขตของเมืองได้รับผลกระทบ" หน่วยกู้ภัยยูเครนช่วยประชาชนหลายสิบคนออกจากพื้นที่ไฟไหม้และซากปรักหักพัง ขณะที่ตำรวจระบุว่ามีอาคารพักอาศัย 30 แห่งใน 9 เขตได้รับความเสียหาย
นายกเทศมนตรี วิตาลี คลิตช์โก กล่าวว่า บางพื้นที่ในเขตเดสเนียนสกีและโพดิลประสบปัญหาระบบทำความร้อนหยุดชั่วคราว แต่ยืนยันว่าการหยุดจ่ายพลังงานฉุกเฉินที่เกิดจากการโจมตีได้รับการแก้ไขแล้วในช่วงเช้า การคมนาคมบางส่วนยังถูกจำกัด โดยรถบัสและรถรางล่าช้า
การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันที่ชาติตะวันตกเพิ่มต่อรัสเซีย โดยแคนาดาประกาศคว่ำบาตรรอบใหม่เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยมุ่งเป้าไปที่การผลิตโดรนและพลังงานของรัสเซีย รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้โจมตีทางไซเบอร์
ในวันเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มจี7 เรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันที พร้อมยืนยันการสนับสนุนอย่าง "ไม่หวั่นไหวฃ" ต่อบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน ขณะเดียวกัน คณะกรรมาธิการยุโรปกำลังพิจารณานำทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดหลังการรุกรานส่วนหนึ่งมาใช้ให้กู้ยูเครนเพื่อสนับสนุนงบประมาณและการทหารในสองปีข้างหน้า
...
อย่างไรก็ตาม หลังสงครามยืดเยื้อเกือบ 4 ปี ทั้งสองฝ่ายต่างตั้งแนวป้องกันแน่นหนา ขณะที่รัสเซียปฏิเสธการเรียกร้องให้หยุดยิง รวมถึงความพยายามของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการฟื้นการเจรจาสันติภาพที่หยุดชะงักมานาน
กองกำลังรัสเซียยังคงรุกคืบในภาคตะวันออกของยูเครนหลายเดือนติดต่อกัน โดยมุ่งยึดเขตโดเนตสก์และลูฮันสก์ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานรอบล่าสุดของรัสเซียทำให้ยูเครนเสี่ยงต่อปัญหาความร้อนขัดข้องในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง
ยูเครนเองได้เพิ่มปฏิบัติการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของรัสเซีย และขยายเป้าหมายออกไปไกลกว่าพื้นที่แนวหน้า กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่าสามารถสกัดโดรนยูเครนได้กว่า 200 ลำในคืนวันศุกร์ รวมถึง 66 ลำเหนือเขตคราสโนดาร์ และ 45 ลำเหนือเขตซาราตอฟทางใต้
เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงกลั่นน้ำมันเชชคารีส หนึ่งในโรงกลั่นใหญ่ของรัสเซียในท่าเรือโนโวโรสซิสค์ริมทะเลดำ ก่อนควบคุมเพลิงไว้ได้ ทางการคราสโนดาร์ระบุว่า เรือพาณิชย์ลำหนึ่งในพื้นที่ได้รับความเสียหาย และมีลูกเรือสามคนบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาล.
ที่มา AFP