(นาย เฉิน ป๋อ-หยวน [ซ้าย] กับนาย ปา ฉง)


ตำรวจจีนออกประกาศจับอินฟลูเอนเซอร์ชาวไต้หวัน 2 คน ในข้อหาแบ่งแยกดินแดน พร้อมตั้งรางวัลนำจับมูลค่านับล้านบาท ด้านไต้หวันระบุว่าจีนพยายามสร้างความหวาดกลัว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 13 พ.ย. 2568 ว่า ตำรวจจีนออกประกาศจับ อินฟลูเอนเซอร์ชาวไต้หวัน 2 คน ที่พวกเขากล่าวหาว่า “แบ่งแยกดินแดน” พร้อมเสนอเงินรางวัล 250,000 หยวน (ราว 1.1 ล้านบาท) ให้กับใครก็ตามที่มีส่วนช่วยอย่างยิ่งในการตามจับกุม 2 คนนี้

ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลจีนตั้งข้อกล่าวหาเรื่องการ “แบ่งแยกดินแดน” ให้แก่ผู้ที่อยู่ในไต้หวันแล้วหลายสิบคน ไม่เว้นแม้แต่สมาชิกสภานิติบัญญัติ ซึ่งรัฐบาลไทเประบุว่า นี่เป็นความพยายามของจีนเพื่อสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวไต้หวัน

ตำรวจในเมืองเฉวียนโจว ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับไต้หวันโดยมีช่องแคบไต้หวันคั่นกลาง ระบุในแถลงการณ์ว่า อินฟลูเอนเซอร์ชาวไต้หวัน 2 คนได้แก่นาย ปา ฉง (Pa Chiung) และ เฉิน ป๋อ-หยวน (Chen Po-yuan) หรือชื่อในวงการว่า แมนนัม พีวายซี (Mannam PYC) เป็นกลุ่มแร็ปเปอร์ที่มีส่วนร่วมในการเผยแพร่และปลุกปั่นความคิดเห็นเกี่ยวกับการแบ่งแยกดินแดนมาเป็นเวลานาน

ตำรวจระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้ใดก็ตามที่มีส่วนสำคัญในการช่วยจับกุมบุคคลทั้งสองจะได้รับเงินรางวัลสูงสุดถึง 250,000 หยวน

ด้านนาย เฉิน กับนาย ปา ฉง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจากการวิพากษ์วิจารณ์จีนอย่างเปิดเผย ออกแถลงการณ์คนละฉบับ ปฏิเสธข้อกล่าวหาของตำรวจจีนผ่านบัญชี Threads ของพวกเขา

ข้อความของนาย เฉิน ระบุว่า “ผมจะยืนหยัดเพื่อตัวเอง ลมยิ่งแรง ผมก็จะยิ่งมั่นคง” ส่วนนาย ปา ฉง กล่าวว่า เขาเพิ่งเห็นข่าวหลังจากตื่นนอนเท่านั้น และ “ดูเหมือนว่าผมได้กลายเป็น พูม่า เสิน ไปแล้ว” โดยอ้างถึงชื่อของ สส.ไต้หวันที่ถูกจีนเริ่มทำการสอบสวนเมื่อเดือนก่อน หลังถูกกล่าวหาว่าทำกิจกรรมหนุนการแบ่งแยกดินแดน

...

ขณะที่รัฐบาลไต้หวันออกมาระบุว่า จีนกำลังพยายามนำ “ความหวาดกลัวสีแดง” ซึ่งเป็นสีของพรรคคอมมิวนิสต์ เข้ามาในไต้หวัน ด้วยการพยายามใช้อำนาจศาลข้ามพรมแดน และกล่าวหาชาวไต้หวันว่าพยายามแบ่งแยกดินแดน และจีนกำลังพยายามปลุกกระแสชาตินิยมในประเทศ ด้วยการเล่นงานอินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้

“ประกาศจับเหล่านี้เป็นเพียงการจัดฉากเท่านั้น” นาย เหลียง เหวิน-เจี๋ย โฆษกรัฐสภาฝ่ายกิจการแผ่นดินใหญ่ของไต้หวันกล่าว


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : reuters