กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตร กลุ่มติดอาวุธDKBA และผู้นำระดับสูง 4 คน รวมถึงบุคคลและบริษัทในไทยที่เกี่ยวข้องกับ ขบวนการสแกมออนไลน์ ซึ่งหลอกลวงชาวอเมริกันให้ลงทุนในแพลตฟอร์มปลอม

สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างชาติของสหรัฐฯ (OFAC)  ประกาศแถลงการณ์ ประกาศคว่ำบาตรบุคคลและบริษัทที่อยู่ในเมียนมาและประเทศไทย ฐานมีส่วนเกี่ยวพันกับแก๊งสแกมเมอร์ โดยระบุว่ากลุ่มกองทัพกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย หรือ DKBA และบริษัทที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติของจีน ตั้งศูนย์สแกมในเขตชายแดนเมียนมา-ไทย เพื่อดูดเงินจากเหยื่อในสหรัฐฯ ผ่านการลงทุนปลอม โดยรายได้ที่ได้จากศูนย์สแกมเหล่านี้ยังถูกนำไป สนับสนุนกิจกรรมผิดกฎหมายและความรุนแรงของ DKBA 

นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ของ OFAC ยังระบุถึงการคว่ำบาตร บริษัท ทรานส์เอเชีย อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง กรุ๊ป ไทยแลนด์ จำกัด (ทรานส์เอเชีย) บริษัทในแม่สอด ประเทศไทย, บริษัท ทรอธ สตาร์ จำกัด (ทรอธ สตาร์) ในประเทศเมียนมา และนายจะมู สว่าง (Chamu Sawang) สัญชาติไทย หรือที่รู้จักกันในชื่อ หยู เจี้ยนจวิน (Yu Jianjun) ผู้อำนวยการของทรานส์เอเชีย เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรมจีน และได้ร่วมมือกับ DKBA และกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆ เพื่อพัฒนาศูนย์สแกมเมอร์เหล่านี้ด้วย

นาย จอห์น เค. เฮอร์ลีย์  รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังฝ่ายข่าวกรองการเงินและการก่อการร้าย กล่าวว่า "เครือข่ายอาชญากรรมในเมียนมากำลัง ขโมยเงินจากชาวอเมริกันหลายพันล้านดอลลาร์ผ่านสแกมออนไลน์ พร้อมทั้งค้ามนุษย์และสนับสนุนสงครามกลางเมืองในประเทศ เราจะใช้ทุกเครื่องมือเพื่อจัดการกับกลุ่มเหล่านี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม เพื่อปกป้องครอบครัวชาวอเมริกันจากการถูกหลอก"

...

การคว่ำบาตรครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานหลายแห่งของสหรัฐฯ ได้แก่ FBI, กระทรวงยุติธรรม, หน่วยสืบราชการลับ (USSS) และสำนักงานปราบปรามยาเสพติด (DEA)

พร้อมกันนั้น สหรัฐฯ ยังได้ประกาศตั้ง "หน่วยเฉพาะกิจ Scam Center Strike Force" เพื่อสืบสวนและดำเนินคดีต่อศูนย์สแกมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะใน เมียนมา กัมพูชา และลาว ซึ่งเป็นแหล่งปฏิบัติการหลักของขบวนการหลอกลวงข้ามชาติ

การดำเนินการล่าสุดนี้ต่อยอดจากมาตรการก่อนหน้า เช่น ในเดือนพฤษภาคม 2025: คว่ำบาตร กองทัพกะเหรี่ยงแห่งชาติ (KNA) และผู้นำที่เกี่ยวข้องกับค้ามนุษย์และสแกมไซเบอร์ 

ในเดือนกันยายน 2025: คว่ำบาตรบริษัท 12 แห่งในกัมพูชาและเมียนมาที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายหลอกลวง

และในเดือนตุลาคม 2025: ร่วมมือกับรัฐบาลสหราชอาณาจักร คว่ำบาตร Prince Group กลุ่มทุนใหญ่ของกัมพูชา ซึ่งตั้งศูนย์สแกมและหลอกคนอเมริกัน–อังกฤษ

นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังได้ตัดขาดเครือข่ายการเงินของ Huione Group บริษัทในกัมพูชา ที่ใช้ฟอกเงินจาก แฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือ (DPRK) และแก๊งสแกมคริปโตในภูมิภาคด้วย

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ประเมินว่าในปี 2024 เพียงปีเดียว ชาวอเมริกันสูญเงินไปกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 370,000 ล้านบาท จากการถูกหลอกโดยแก๊งสแกมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มขึ้นกว่า 66% จากปีก่อนหน้า โดยรูปแบบการหลอกลวงที่พบบ่อยคือหลอกลงทุนในคริปโต/แพลตฟอร์มปลอม การใช้โปรไฟล์ปลอมจีบเหยื่อในออนไลน์ (romance scam) เพื่อสร้างความไว้ใจ และการชักชวนให้โอนเงินเข้า "เว็บไซต์ลงทุนปลอม" ที่จริงแล้วควบคุมโดยกลุ่มสแกมเอง.


ที่มา :กระทรวงการคลังสหรัฐฯ