แคนาดาสูญเสียสถานะประเทศปลอดโรคหัดแล้ว หลังจากมีการแพร่กระจายของเชื้อต่อเนื่องนานกว่า 1 ปี มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 5,000 คน
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระหว่างประเทศกล่าวเมื่อวันจันทร์ (10 พ.ย. 2568) ว่า ประเทศแคนาดาสูญเสียสถานะ “ปลอดโรคหัด” หลังเกิดการระบาดอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา กอปรกับอัตราการฉีดวัคซีนในเด็กก็กำลังลดลง ในขณะที่ไวรัสที่ติดต่อได้ง่ายนี้กำลังแพร่กระจายไปทั่วทวีปอเมริกาเหนือและใต้
การสูญเสียสถานะปลอดโรคหัดของแคนาดาเกิดขึ้นราว 1 ปีหลังจากแดนเมเปิล เริ่มพบการแพร่กระจายของโรคหัด โดยในปีนี้พวกเขาพบผู้ติดเชื้อหัด 5,138 ราย และมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ เป็นเด็กทารกที่ได้รับเชื้อไวรัสในขณะอยู่ในครรภ์และคลอดก่อนกำหนดทั้งคู่
อนึ่ง สถานะปลอดโรคหัด แม้จะมีความหมายเพียงเชิงสัญลักษณ์ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงชัยชนะที่ได้มาอย่างยากลำบากในการต่อสู้กับโรคชนิดนี้ โดยประเทศหนึ่งจะได้รับสถานะนี้ก็ต่อเมื่อ พวกเขาแสดงให้เห็นว่าสามารถหยุดการแพร่กระจายของไวรัสภายในชุมชนท้องถิ่นได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะยังมีผู้ป่วยประปรายที่มาจากการเดินทางก็ตาม
โรคหัดมักเริ่มต้นด้วยไข้สูงและยังทำให้เกิดผื่นบนใบหน้าและลำคอ แม้ว่าคนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อหัดจะหายเป็นปกติได้เอง แต่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าโรคนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตในกลุ่มเด็กเล็ก โดยมีภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง รวมถึงอาการตาบอดและสมองบวม ซึ่งพบได้บ่อยในเด็กเล็กและผู้ใหญ่อายุเกิน 30 ปี
ทั้งนี้ แคนาดากำจัดโรคหัดได้ในปี 2541 ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกาในอีก 2 ปีต่อมา หลังการรณรงค์ฉีดวัคซีนประสบความสำเร็จอย่างสูง ก่อนที่ทวีปอเมริกาจะกลายเป็นภูมิภาคแรกของโลกที่ปลอดโรคหัดในปี 2559 โดยมีการประเมินว่า วัคซีนป้องกันโรคหัดช่วยป้องกันการเสียชีวิตของประชาชนถึง 6.2 ล้านคนในทวีปอเมริกา ระหว่างปี 2543-2566
...
แต่หลังจากนั้น อัตราการฉีดวัคซีนได้ลดลงทั่วทวีปอเมริกา โดยต่ำกว่าอัตราการครอบคลุม 95% ที่จำเป็นต่อการหยุดการระบาด โดยเกิดการระบาดครั้งใหญ่ในเวเนซุเอลาและบราซิลในปี 2561 และ 2562 ทำให้ภูมิภาคนี้สูญเสียสถานะการกำจัดโรคไป สถานะนี้ถูกกู้คืนมาได้ในปี 2567 แต่ก็ต้องสิ้นสุดลงอีกครั้งจากการสูญเสียสถานะของแคนาดา
ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยแพนอเมริกัน ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านสุขภาพอิสระ เป็นผู้ตัดสินใจถอดสถานะปลอดโรคหัดของแคนาดา หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลการระบาดแล้วพบว่าไวรัสได้แพร่กระจายอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว
และประเทศต่อไปที่อาจสูญเสียสถานะนี้คือ สหรัฐอเมริกา แม้ว่าการระบาดครั้งใหญ่ที่คร่าชีวิตผู้คนไป 3 รายและล้มป่วยเกือบ 900 รายทั่วรัฐเท็กซัส, นิวเม็กซิโก และโอกลาโฮมาจะสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม แต่ยังคงพบผู้ติดเชื้อประปรายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงที่รัฐเซาท์แคโรไลนา และที่เมืองตามชายแดนรัฐแอริโซนากับยูทาห์
ตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) ในปีนี้ สหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อโรคหัด 1,681 ราย และมีการระบาดปะทุขึ้น 44 ครั้งทั่วประเทศ โดยมีเพียง 9 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐที่ไม่มีรายงานพบผู้ป่วย
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : japantoday