สหราชอาณาจักรระงับการส่งข้อมูลข่าวกรองเกี่ยวกับเรือต้องสงสัยขนยาเสพติดให้สหรัฐฯ ชั่วคราว หลังสหรัฐฯ โจมตีเรือต้องสงสัยหลายครั้งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิตหลายสิบศพ

สำนักข่าว CNN รายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวหลายคนว่า สหราชอาณาจักร (UK) หยุดการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับสหรัฐฯ เรื่องเรือที่ต้องสงสัยว่าลักลอบค้ายาเสพติดในทะเลแคริบเบียนแล้ว เนื่องจากไม่ต้องการมีส่วนร่วมในการโจมตีทางทหารของสหรัฐฯ ซึ่งจมเรือต้องสงสัยแล้วหลายลำในช่วงที่ผ่านมา โดย UK เชื่อว่าการโจมตีดังกล่าวผิดกฎหมาย

การตัดสินใจของสหราชอาณาจักรถูกมองว่าเป็นการแตกหักครั้งสำคัญกับหนึ่งในชาติพันธมิตรผู้ประสานงานข่าวกรองที่ใกล้ชิดที่สุดของพวกเขา และยิ่งเป็นการเน้นย้ำข้อสงสัยที่ว่า ปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ในทะเลแถบลาตินอเมริกานั้น ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

แหล่งข่าวระบุว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สหราชอาณาจักร ซึ่งมีดินแดนในปกครองหลายแห่งในทะเลแคริบเบียน และมีการตั้งฐานของหน่วยข่าวกรองเอาไว้ ได้คอยช่วยเหลือสหรัฐฯ ในการค้นหาเรือที่ต้องสงสัยว่าขนยาเสพติดมาตลอด เพื่อให้หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ สามารถสกัดกั้นเรือเหล่านั้นได้

การสกัดกั้นดังกล่าวหมายถึง การสั่งหยุดเรือ, ให้เจ้าหน้าที่ขึ้นเรือ, ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย และยึดยาเสพติด

ตามปกติแล้ว ข่าวกรองจะถูกส่งไปยัง “กองกำลังเฉพาะกิจร่วมระหว่างหน่วยงานภาคใต้” (Joint Interagency Task Force South - JIATF South) ซึ่งเป็นคณะทำงานที่ประจำการอยู่ในรัฐฟลอริดา ซึ่งมีตัวแทนจากประเทศพันธมิตรจำนวนหนึ่ง และทำงานเพื่อลดการค้ายาเสพติดผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สหรัฐฯ เริ่มโจมตีเรือต้องสงสัยจนทำให้มีผู้เสียชีวิตในช่วงเดือนกันยายน สหราชอาณาจักรก็เกิดความกังวลว่าสหรัฐฯ อาจใช้ข่าวกรองที่พวกเขาหามาให้ในการเลือกเป้าหมาย และเจ้าหน้าที่อังกฤษเชื่อว่า การโจมตีของสหรัฐฯ ซึ่งจนถึงตอนนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 76 ศพ ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ UK จึงเริ่มระงับการส่งข้อมูลข่าวกรองเมื่อกว่า 1 เดือนก่อน

...

ด้านนาย โวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวในเดือนตุลาคมว่า การโจมตีของสหรัฐฯ ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นการสังหารนอกกระบวนการยุติธรรม ซึ่งแหล่งข่าวบอกกับ CNN ว่า สหราชอาณาจักรเห็นด้วยกับการประเมินนี้

อย่างไรก็ตาม CNN ระบุว่า สถานทูตอังกฤษในวอชิงตันและทำเนียบขาวไม่ตอบคำถามของพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า พวกเขาจะไม่พูดถึงเรื่องข้อมูลข่าวกรอง

ในขณะเดียวกัน แคนาดา อีกหนึ่งพันธมิตรสำคัญที่คอยช่วยเหลือหน่วยยามฝั่งของสหรัฐฯ ในการสกัดกั้นผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติดในทะเลแคริบเบียนมาเกือบสองทศวรรษ ก็เริ่มเว้นระยะห่างจากปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ เช่นกัน โดยแจ้งกับสหรัฐฯ อย่างชัดเจนว่า แคนาดาไม่ต้องการให้ข่าวกรองของพวกเขาถูกนำไปใช้เพื่อช่วยในการชี้เป้าหมายสำหรับการโจมตี

เมื่อเดือนตุลาคม โฆษกของกระทรวงกลาโหมแคนาดาบอกกับสื่อท้องถิ่นว่า ปฏิบัติการความร่วมมือทางทหารระหว่างแคนาดากับสหรัฐฯ ในทะเลแคริบเบียน หรือที่เรียกว่า “ปฏิบัติการแคริบเบียน” (Operation Caribbean) ไม่เกี่ยวข้องและแตกต่างจากการโจมตีเรือต้องสงสัยของสหรัฐฯ อย่างสิ้นเชิง


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : cnn