พายุฟงวองกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไต้หวันมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่หน่วยกู้ภัยของฟิลิปปินส์พบผู้เสียชีวิตจากพายุลูกนี้เพิ่มขึ้นเป็น 25 ศพแล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 11 พ.ย. 2568 เจ้าหน้าที่กู้ภัยของประเทศฟิลิปปินส์กำลังใช้ทั้งรถแบ็กโฮและเลื่อยยนต์ขุดค้นซากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอิทธิพลของไต้ฝุ่น “ฟงวอง” ซึ่งพัดผ่านประเทศในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 25 ศพ ขณะที่ระดับน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ เริ่มลดลงแล้ว
สำนักงานป้องกันพลเรือนของฟิลิปปินส์ บอกกับสำนักข่าว เอเอฟพี ว่า อิทธิพลของพายุฟงวองทำให้ประชาชนกว่า 1.4 ล้านคนต้องพลัดถิ่น โดยจังหวัดอิซาเบลาซึ่งเป็นพื้นที่ชายฝั่งทะเล และมีประชากรราว 6,000 คน ยังคงถูกตัดขาดจากความช่วยเหลือ เช่นเดียวกับพื้นที่บางส่วนของจังหวัดนูเอบา วิซคายา ที่อยู่ใกล้เคียง
นายราฟาเอลลิโต อเลฮานโดร รองผู้บริหารสำนักงานป้องกันพลเรือนฟิลิปปินส์เปิดเผยในวันอังคารว่า เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตจากอิทธิพลของพายุฟงวองเพิ่มขึ้นเป็น 25 ศพแล้ว โดยส่วนใหญ่เสียชีวิตในเหตุดินถล่ม รวมถึงเด็กชายวัยเพียง 10 ขวบที่จังหวัดนูเอบา วิซคายา
นายอเลฮานโดรบอกอีกว่า แม้แต่ความพยายามในการฟื้นฟูเบื้องต้น ก็อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ “ความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดของเราตอนนี้คือ การฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน การเคลียร์ถนน และการฟื้นฟูระบบไฟฟ้าและการสื่อสาร ซึ่งเรากำลังดำเนินการอยู่”
เขาบอกด้วยว่า เกาะคาตันดัวเนสเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุมากที่สุด และกำลังเผชิญปัญหาเรื่องการประปาซึ่งอาจต้องใช้เวลาแก้ไขนานถึง 20 วัน
ทั้งนี้ ฟงวองเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 2 ที่เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ต่อจากไต้ฝุ่น “คัลแมกี” ซึ่งพัดถล่มพื้นที่หมู่เกาะตอนกลางของประเทศ และคร่าชีวิตผู้คนไปมากถึง 232 ศพ
...
ปัจจุบัน พายุฟงวองเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ไปแล้ว โดยมันอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและกำลังมุ่งหน้าสู่เกาะไต้หวัน ซึ่งคาดกันว่ามันจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งในวันพุธนี้ (12 พ.ย.)
อย่างไรก็ตาม แม้จะอ่อนกำลังลง แต่อิทธิพลของฟงวองก็เริ่มทำให้เกิดฝนตกหนักในไต้หวันแล้ว โรงเรียนกับสำนักงานต่างๆ ในหลายเขตถูกสั่งปิดเพื่อรอรับมือพายุ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นพยากรณ์ว่า จะมีฝนตกปริมาณน้ำฝนสูงถึง 400 มม. ในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า
ด้านประธานาธิบดี ไล่ ชิง-เต๋อ ของไต้หวัน ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่ภูเขา, ชายหาด และสถานที่อันตรายอื่นๆ เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้อย่างปลอดภัย
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cna