นักเคลื่อนไหวประมาณ 100 คน ได้รวมตัวประท้วงในกรุงจาการ์ตา ของอินโดนีเซีย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกแผนการมอบสถานะ "วีรบุรุษแห่งชาติ" ให้แก่ "ซูฮาร์โต" อดีตผู้นำเผด็จการผู้ล่วงลับ ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับการฟอกขาวประวัติศาสตร์
กระทรวงกิจการสังคมและกระทรวงวัฒนธรรมของอินโดนีเซีย ได้เสนอชื่อซูฮาร์โตพร้อมกับอีก 48 คนต่อ ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต เพื่อรับการยกย่องเป็นวีรบุรุษแห่งชาติ ซึ่งเป็นเกียรติที่มอบให้ทุกปีในวันที่ 10 พฤศจิกายน แก่ผู้ที่ถือว่าได้สร้างคุณูปการสำคัญต่อประเทศ
อินโดนีเซียเผชิญกับทศวรรษของการปกครองที่กดขี่ภายใต้ระบอบ "ระเบียบใหม่" ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพของซูฮาร์โต เขากุมอำนาจเป็นเวลา 32 ปี ก่อนจะถูกบังคับให้ลงจากตำแหน่งในปี 1998 ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ การประท้วงครั้งใหญ่ และเหตุจลาจลนองเลือดในกรุงจาการ์ตา
กลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวกันใกล้ทำเนียบประธานาธิบดี โดยโต้แย้งว่า การละเมิดสิทธิมนุษยชนและการทุจริตของซูฮาร์โต ทำให้เขาไม่สมควรได้รับตำแหน่งวีรบุรุษ บางคนชูป้ายที่มีข้อความว่า "หยุดการฟอกขาวนายพลนักฆ่า" และ "ผู้คนนับพันตาย แต่ประเทศเลือกที่จะลืม"
ประธานาธิบดีปราโบโว ซึ่งได้รับเลือกเมื่อปีที่แล้ว ได้เคยกล่าวชื่นชมซูฮาร์โต อดีตพ่อตาของเขาอย่างเปิดเผย พร้อมทั้งหันไปใช้กองทัพมากขึ้นในการดำเนินวาระของรัฐบาล
กลุ่มสิทธิมนุษยชนที่เข้าร่วมการประท้วง ได้แก่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล อินโดนีเซีย และ คณะกรรมการผู้สูญหายและเหยื่อความรุนแรง (KontraS)
วิร์ดินดา ลา โอด อาหมัด ตัวแทนจาก KontraS กล่าวว่า "ถ้าเขาสมควรเป็นวีรบุรุษ เหตุใดเขาจึงต้องลงจากตำแหน่ง และเหตุใดระบอบระเบียบใหม่จึงต้องถูกโค่นล้ม?"
...
กลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มยังได้ส่งจดหมายถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและประธานาธิบดีปราโบโว เพื่อคัดค้านแผนการนี้
ฟัดลี ซอน รัฐมนตรีวัฒนธรรม กล่าวว่า การเสนอชื่อผู้สมัครวีรบุรุษแห่งชาติได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นของสาธารณชนแล้ว และยืนยันว่า "เราได้ทำการศึกษาแล้ว ทุกคนมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด"
นักประวัติศาสตร์และนักเคลื่อนไหวกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 500,000 คน นับตั้งแต่ปลายปี 1965 หลังจากที่นายพลซูฮาร์โตในขณะนั้น ขึ้นสู่อำนาจหลังจากการรัฐประหารของคอมมิวนิสต์ที่ประสบความล้มเหลว โดยซูฮาร์โตเป็นผู้บัญชาการทหารคนสำคัญในขณะนั้น.
ที่มา Reuters