อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นให้รับแพ็กเกจค่าตอบแทนมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 32.4 ล้านล้านบาท ถือเป็นข้อตกลงค่าจ้างที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท หลังที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีของเทสลาที่โรงงานในเมืองออสติน รัฐเทกซัส ลงมติสนับสนุนมากกว่า 75% โดยมัสก์ปรากฏตัวขึ้นบนเวทีพร้อมหุ่นยนต์เต้นประกอบอย่างอลังการ
ข้อตกลงนี้ถูกมองว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่ออนาคตของเทสลา ซึ่งมัสก์ตั้งเป้าจะเปลี่ยนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้กลายเป็นผู้นำในธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์ แม้ภาพลักษณ์ของแบรนด์จะได้รับผลกระทบจากท่าทีทางการเมืองขวาจัดของเขาในปีนี้ก็ตาม คณะกรรมการบริษัทเตือนก่อนหน้านี้ว่ามัสก์อาจลาออกหากไม่ได้รับแพ็กเกจดังกล่าว ขณะที่นักลงทุนบางส่วนมองว่าข้อตกลงนี้ "สูงเกินจำเป็น" แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นการจูงใจให้มัสก์อยู่กับบริษัทและผลักดันให้ผู้ถือหุ้นได้ประโยชน์ร่วมกัน
มัสก์กล่าวบนเวทีว่า "สิ่งที่เรากำลังเริ่มต้น ไม่ใช่แค่บทใหม่ของเทสล่า แต่คือหนังสือเล่มใหม่ทั้งเล่ม" พร้อมให้คำมั่นว่าจะเริ่มผลิต "Cybercab" รถแท็กซี่ไร้พวงมาลัยภายในเดือนเมษายน และเปิดตัวรถสปอร์ตไฟฟ้ารุ่นใหม่ "Roadster" นอกจากนี้ยังเผยว่าเทสลาจำเป็นต้องสร้างโรงงานผลิตชิป AI ขนาดใหญ่ และอาจร่วมมือกับอินเทลในอนาคต
ที่ประชุมยังเลือกตั้งกรรมการ 3 คนกลับเข้าดำรงตำแหน่ง รับรองให้มีการเลือกตั้งกรรมการประจำปีทั้งหมด และอนุมัติแผนค่าตอบแทนชุดใหม่แทนแผนเดิมที่ยังค้างอยู่ในชั้นศาล ขณะเดียวกัน ผู้ถือหุ้นยังโหวตสนับสนุนให้เทสลาลงทุนในบริษัท AI ของมัสก์ชื่อ "xAI" แม้จะมีผู้งดออกเสียงจำนวนมาก เนื่องจากกังวลเรื่องความซ้ำซ้อนทางธุรกิจ
นักลงทุนรายใหญ่บางราย เช่น กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาตินอร์เวย์ รวมถึงบริษัทที่ปรึกษา Glass Lewis และ ISS โหวตคัดค้านแผนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ผลโหวตครั้งนี้ช่วยคลายความกังวลเรื่องที่มัสก์จะหันไปให้ความสนใจต่อการบริหารบริษัทอื่น เช่น SpaceX หรือ xAI
...
คณะกรรมการเทสลาระบุว่า แพ็กเกจนี้จะเป็นประโยชน์ระยะยาว เพราะมัสก์จะได้รับค่าตอบแทนก็ต่อเมื่อบริษัทบรรลุเป้าหมายสำคัญหลายด้าน เช่น การส่งมอบรถยนต์ให้ถึง 20 ล้านคันภายใน 10 ปี มีรถแท็กซี่อัตโนมัติ 1 ล้านคัน หุ่นยนต์ขายได้ 1 ล้านตัว และทำกำไรหลักได้ถึง 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมูลค่าหุ้นเทสล่าต้องเพิ่มจาก 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ไปแตะที่ 8.5 ล้านล้านดอลลาร์
มัสก์จะได้รับหุ้นเพิ่ม 1% ทุกครั้งที่เทสลาบรรลุเป้าหมายด้านการดำเนินงานและมูลค่าหุ้น ซึ่งหมายความว่าเขาจะได้รับหุ้นมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ แม้จะไม่บรรลุเป้าหมายทั้งหมดก็ตาม หากทำได้ครบทุกขั้น เขาจะได้รับหุ้นรวม 12% ของบริษัท คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์
มูลค่าหุ้นที่แท้จริงในแพ็กเกจนี้อยู่ที่ประมาณ 878,000 ล้านดอลลาร์ โดยไม่รวมราคาหุ้นในวันที่คณะกรรมการอนุมัติแผนเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งมัสก์สามารถชำระเป็นเงินสดหรือรับหุ้นจำนวนน้อยลงแทน ทั้งนี้ มูลค่าของแพ็กเกจจะเปลี่ยนแปลงไปตามราคาหุ้นในตลาด
มัสก์ย้ำว่า สิ่งที่เขาให้ความสำคัญไม่ใช่จำนวนเงิน แต่คืออำนาจในการถือหุ้นที่มากขึ้นในเทสลา เพื่อขับเคลื่อนวิสัยทัศน์การสร้าง “กองทัพหุ่นยนต์” ที่จะเป็นอนาคตใหม่ของบริษัท.
ที่มา Reuters