กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นลงพื้นที่ปฏิบัติการล่าหมี ในจังหวัดอากิตะ ทางตอนเหนือของประเทศ หลังเกิดเหตุหมีทำร้ายคนถี่ ๆ ทั่วประเทศ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 12 ศพ และบาดเจ็บกว่าร้อยคน 

ทหารพร้อมรถบรรทุกและรถจี๊ปหลายคันลงพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติการไล่ล่าหมี ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเตือนชาวบ้านให้อยู่แต่ในบ้านหลังพระอาทิตย์ตก ห้ามเข้าใกล้ป่า และพกกระดิ่งไว้ขณะเดินทาง เพื่อป้องกันการเผชิญหน้ากับหมีที่ออกมาหาอาหารใกล้ชุมชน

รัฐบาลญี่ปุ่นยอมรับว่านี่คือสถานการณ์วิกฤตสัตว์ป่าครั้งใหญ่สุดในรอบหลายสิบปี โดยเฉพาะในจังหวัดอากิตะซึ่งพบหมีมากกว่า 8,000 ครั้ง เพิ่มขึ้นกว่า 6 เท่าจากปีก่อน สาเหตุคาดว่าเกิดจากภาวะโลกร้อนที่ทำให้แหล่งอาหารของหมีในป่าลดลง ผนวกกับปัญหาชนบทที่ประชากรลดฮวบ จนไม่มีนักล่าคอยควบคุมจำนวนสัตว์ป่าเหมือนในอดีต

นายเคอิ ซาโต้ รองหัวหน้าคณะเลขานุการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวย้ำว่า "เราจะไม่สามารถรอช้าได้อีกต่อไป เพราะจำนวนผู้บาดเจ็บจากหมีเพิ่มขึ้นแทบทุกวัน" พร้อมระบุว่าการเข้าช่วยของทหารถือเป็นการปฏิบัติการพิเศษ เพื่อช่วยขนย้ายและติดตั้งกรงดักหมี ขณะที่การล่าหมีจะมอบหมายให้กับนายพรานมืออาชีพในพื้นที่

ปีนี้จังหวัดอากิตะเพียงแห่งเดียวมีรายงานพบหมีมากกว่า 8,000 ครั้ง เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าจากปีก่อน ส่วนเมืองคะซุโนะที่เพิ่งถูกส่งกำลังเข้าช่วย เป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังที่มีทั้งบ่อน้ำพุร้อน ภูเขาสวยงาม และสวนแอปเปิ้ล แต่ตอนนี้กลับต้องเผชิญกับวิกฤตหมีป่า

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีเหตุหมีบุกทำร้ายคนถึงในซูเปอร์มาร์เก็ต ป้ายรถเมล์ และรีสอร์ตน้ำพุร้อน สร้างความหวาดกลัวไปทั่วญี่ปุ่น โดยเมื่อราว 10 ปีก่อน ญี่ปุ่นเคยใช้กองทัพช่วยควบคุมสัตว์ป่ามาก่อน โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนล่ากวางป่าที่สร้างความเสียหายให้พื้นที่เพาะปลูก แต่ครั้งนี้ถือเป็นการระดมทหารครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นยุคใหม่เพื่อรับมือกับหมีป่าบุกเมือง

...


ที่มา : channelnewsasia

คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ หมีทำร้ายคน