ทางการฮ่องกง แถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (4 พ.ย.) ว่าได้ดำเนินการอายัดทรัพย์สินมูลค่า 2,750 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 11,500 ล้านบาท) ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ ซึ่งสื่อท้องถิ่นระบุว่าเป็น "Prince Group" ที่บริหารโดยนายเฉิน จื้อ นักธุรกิจชาวจีน-กัมพูชา
Prince Group ซึ่งมีฐานอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถูกกล่าวหาว่าดำเนินการ "ศูนย์สแกมเมอร์ขนาดใหญ่ โดยใช้แรงงานที่ถูกค้ามนุษย์มาหลอกลวงเหยื่อจากทั่วโลก โดยนายเฉิน จื้อ วัย 38 ปี ได้ถูกศาลสหรัฐฯ ฟ้องร้องในข้อหาสมคบคิดฉ้อโกงทางโทรศัพท์ และสมคบคิดฟอกเงิน
ตำรวจฮ่องกงเปิดเผยว่า การอายัดทรัพย์สินครั้งนี้เกี่ยวข้องกับขบวนการที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนร่วมในการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ และกิจกรรมการฟอกเงิน โดยอ้างอิงจากข้อมูลข่าวกรองที่รวบรวมได้จากหลายแหล่ง
ทรัพย์สินที่ถูกอายัดประกอบด้วย เงินสด, หุ้น และกองทุน ที่ถือครองโดยบุคคลและนิติบุคคล ซึ่งเชื่อว่าเป็น เงินที่ได้จากการก่ออาชญากรรม ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจไม่ได้ระบุชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง และยังไม่มีการจับกุมใด ๆ ในปฏิบัติการนี้ แต่หน่วยงานสืบสวนและข่าวกรองทางการเงินของฮ่องกงยังคงดำเนินการสอบสวนต่อไป
รายงานระบุว่า บริษัทฮ่องกงอย่างน้อย 18 แห่ง ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำเนื่องจากความเชื่อมโยงกับ Prince Group ซึ่งรวมถึงบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สองแห่ง ได้แก่ Khoon Group และ Geotech Holdings
การดำเนินการของฮ่องกงเกิดขึ้นภายหลังที่สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ได้ประกาศคว่ำบาตรเครือข่ายข้ามชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ไปเมื่อเดือนตุลาคม โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่านี่เป็นการดำเนินการครั้งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยพุ่งเป้าไปที่บุคคล 146 คนภายในเครือข่าย Prince Group
...
นอกจากนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อัยการไต้หวันก็ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 25 คน และยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับ Prince Group มูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 4,734 ล้านบาท) ซึ่งรวมถึงรถยนต์หรู 26 คัน, อสังหาริมทรัพย์ และบัญชีธนาคาร ที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและการบังคับใช้แรงงาน
ขณะที่ ทางการสิงคโปร์ก็เพิ่งยึดทรัพย์สินที่เชื่อมโยงกับ Prince Group ไปกว่า 150 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ 6 แห่ง บัญชีธนาคาร บัญชีหลักทรัพย์ และเงินสด.
ที่มา CNA