ไต้ฝุ่นคัลแมกี หนึ่งในพายุรุนแรงที่สุดในปีนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์แล้ว 26 ศพ และทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง ประชาชนหลายแสนคนต้องอพยพหนีน้ำ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 4 พ.ย. 2568 ว่า ไต้ฝุ่น “คัลแมกี” กำลังพัดถล่มประเทศฟิลิปปินส์ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง รวมถึงหลายเมืองบนเกาะเซบู ตอนกลางของประเทศ ซึ่งเป็นเกาะที่มีประชากรหนาแน่นที่สุด โดยตอนนี้พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 26 ศพ และมีชาวบ้านอีกหลายแสนคนต้องอพยพออกจากบ้าน

วิดีโอต่าง ๆ ที่เผยแพร่บนโลกออนไลน์แสดงให้เห็นภาพคนกำลังหาที่หลบภัยอยู่บนหลังคาบ้าน ขณะที่รถยนต์และตู้คอนเทนเนอร์ถูกกระแสน้ำพัดพาไปตามท้องถนน

กองทัพอากาศฟิลิปปินส์ (PAF) รายงานว่า เฮลิคอปเตอร์ทหารที่ถูกส่งไปช่วยเหลือภารกิจบรรเทาทุกข์ ประสบเหตุตกใกล้กับจังหวัดอาคูซัน เดล ซูร์ เกาะมินดาเนาทางตอนเหนือ ทำให้ลูกเรือเสียชีวิต 6 ราย

ทั้งนี้ ไต้ฝุ่นคัลแมกี หรือที่ในท้องถิ่นของฟิลิปปินส์เรียกว่า ไต้ฝุ่นทีโน่ (Tino) อ่อนกำลังลงนับตั้งแต่ขึ้นฝั่งในช่วงเช้าวันอังคาร แต่ยังคงมีความเร็วลมสูงกว่า 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดกันว่าพายุจะเคลื่อนตัวผ่านภูมิภาคหมู่เกาะวิซายาส (Visayas) และออกจากทะเลจีนใต้ภายในวันพุธที่ 5 พ.ย.

นางพาเมลา บาริคัวโตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเซบู ระบุผ่านโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า "เราคาดว่าลมจะเป็นส่วนที่อันตราย แต่... น้ำ ต่างหากที่ทำให้ประชาชนของเราตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างแท้จริง ... น้ำท่วมสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง"

ข่าวระบุว่าการเสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากการจมน้ำ ขณะที่พายุได้พัดพาน้ำโคลนจำนวนมหาศาลลงมาจากเนินเขาและไหลเข้าสู่เมืองต่าง ๆ ทำให้บ้านเรือนบนเกาะเซบูเสียหายเป็นวงกว้าง อาคารขนาดเล็กหลายหลังถูกน้ำพัดหายไป และมีโคลนหนาทิ้งไว้เมื่อน้ำลด ทีมกู้ภัยต้องใช้เรือเพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ติดอยู่ภายในบ้าน

...

นายราฟาเอลิโต อเลฮานโดร รองผู้บริหารสำนักงานป้องกันภัยพลเรือน กล่าวในการแถลงข่าวว่า มีประชาชนเกือบ 400,000 คนที่ถูกย้ายออกจากเส้นทางของพายุไต้ฝุ่น

ทั้งนี้ โดยเฉลี่ยแล้ว ฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับพายุและไต้ฝุ่นประมาณปีละ 20 ลูก โดยเมื่อเดือนตุลาคม พวกเขาต้องรับมือพายุหลายลูกติดต่อกัน ทั้งซูเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซา และไต้ฝุ่นบัวลอย ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบรายสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานและพืชผลอย่างมาก

ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อวันที่ 30 ก.ย. เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 6.9 ในภาคกลางของฟิลิปปินส์ โดยเกาะเซบูได้รับความเสียหายหนักที่สุด มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายสิบราย

อนึ่ง คาดการณ์ว่า ไต้ฝุ่นคัลแมกีจะเดินทางต่อไปยังประเทศเวียดนาม ซึ่งกำลังเผชิญฝนตกปริมาณน้ำมากเป็นประวัติการณ์อยู่ในขณะนี้


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : bbc