ดิก เชนีย์ หนึ่งในรองประธานาธิบดีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดและทำให้เกิดการแบ่งขั้วทางการเมืองมากที่สุดของสหรัฐฯ ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ขณะมีอายุ 84 ปี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ดิก เชนีย์ นักอนุรักษ์นิยมสายแข็ง ผู้กลายเป็นหนึ่งในรองประธานาธิบดีที่มีอิทธิพลและทำให้เกิดการแบ่งขั้วทางการเมืองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ และเป็นผู้สนับสนุนหลักในการพาสหรัฐฯ บุกโจมตีอิรัก ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ขณะมีอายุ 84 ปี
นายเจเรมี แอดเลอร์ โฆษกครอบครัวเชนีย์ออกแถลงการณ์ระบุว่า เชนีย์เสียชีวิตเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 3 พ.ย. 2568 เนื่องด้วยภาวะแทรกซ้อนจากโรคปอดบวม โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด
ทั้งนี้ เชนีย์เป็นบุคคลสำคัญในรัฐบาลของประธานาธิบดีบุช 2 พ่อลูก โดยเขาเป็นผู้นำกองทัพในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย ภายใต้ประธานาธิบดีจอร์จ เอช.ดับเบิลยู. บุช (บุชผู้พ่อ) ก่อนจะได้รับตำแหน่งรองประธานาธิบดีในรัฐบาลของจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ลูกชายของนายบุช
...
ในทางพฤตินัย นายเชนีย์เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของนายบุชผู้ลูก เขามีบทบาทสำคัญโดยเฉพาะเรื่องการสั่งการ ทั้งตามการตัดสินใจของประธานาธิบดีและเรื่องที่เขาสนใจเป็นพิเศษ ในขณะที่เขาต้องเผชิญกับโรคหัวใจมานานหลายทศวรรษ และต้องเข้ารับการปลูกถ่ายหัวใจหลังพ้นจากตำแหน่ง
เชนีย์สนับสนุนการใช้เครื่องมือพิเศษในการสอดแนม การควบคุมตัว และการสอบสวนมาตลอด นับตั้งแต่เกิดวินาศกรรมตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เมื่อ 11 ก.ย. 2544
ในยุคของเชนีย์ ตำแหน่งรองประธานาธิบดีไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งทางพิธีการที่มักถูกมองข้าม แต่เขาทำให้ตำแหน่งนี้กลายเป็นเครือข่ายของ "ช่องทางลับ" ที่ใช้ในการมีอิทธิพลเหนือนโยบายต่าง ๆ ทั้งในเรื่องอิรัก การก่อการร้าย อำนาจของประธานาธิบดี พลังงาน และนโยบายสำคัญอื่น ๆ ของฝ่ายอนุรักษ์นิยม
เชนีย์เคยพูดติดตลกเรื่องชื่อเสียงของเขาในฐานะจอมบงการอยู่เบื้องหลังว่า “ผมเป็นอัจฉริยะผู้ชั่วร้ายตรงมุมห้องที่ไม่เคยมีใครเห็นว่าออกมาจากที่ซ่อนของตัวเองหรือเปล่าน่ะหรือ? ... ที่จริงแล้ว มันเป็นวิธีทำงานที่เยี่ยมไปเลยนะ”
หลายปีหลังจากพ้นตำแหน่ง เขาตกเป็นเป้าโจมตีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากที่ ลิซ เชนีย์ ลูกสาวของเขา, นักวิจารณ์พรรครีพับลิกันตัวยง และเป็นผู้ตรวจสอบความพยายามรักษาอำนาจของนายทรัมป์ หลังจากพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งปี 2563 และบทบาทของเขาในเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาเมื่อ 6 ม.ค. 2564
"ในประวัติศาสตร์ 246 ปีของชาติเรา ไม่เคยมีบุคคลใดที่เป็นภัยคุกคามต่อสาธารณรัฐของเรามากไปกว่าโดนัลด์ ทรัมป์" เชนีย์กล่าวในโฆษณาซึ่งเผยแพร่ทางโทรทัศน์เพื่อสนับสนุนลูกสาวของเขา "เขาพยายามขโมยการเลือกตั้งครั้งล่าสุด โดยใช้คำโกหกและความรุนแรงเพื่อรักษาอำนาจของตัวเองเอาไว้ หลังจากที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งปฏิเสธเขาไปแล้ว เขาเป็นคนขี้ขลาด"
ดิก เชนีย์ ปฏิเสธนายทรัมป์ถึงขั้นทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น คือเขาประกาศจะลงคะแนนเสียงให้แก่ น.ส.คามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต
ในฐานะผู้รอดชีวิตจากอาการหัวใจวายถึงห้าครั้ง เชนีย์คิดมาตลอดว่า เขาใช้ชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่ยืมมา และในปี 2556 เขาประกาศว่าทุกวันนี้เขาตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่ "ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ขอบคุณสำหรับของขวัญแห่งอีกวันหนึ่ง"
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc