องค์กรสิทธิมนุษยชน "Gyeore-eol Nation United" เปิดเผยว่า ทหารเกาหลีเหนือสองนายซึ่งถูกจับเป็นเชลยศึกในยูเครน ได้ร้องขอให้พาไปตั้งถิ่นฐานในเกาหลีใต้ ระหว่างให้สัมภาษณ์เพื่อจัดทำสารคดีเกี่ยวกับเชลยศึกเกาหลีเหนือ

องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนเปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า เชลยศึกชาวเกาหลีเหนือ 2 นาย ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในประเทศยูเครน ได้ร้องขอให้ทางการพาไปอาศัยในประเทศเกาหลีใต้

คำร้องขอดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการสัมภาษณ์เพื่อจัดทำภาพยนตร์สารคดี โดย นายจาง เซ-ยุล หัวหน้าองค์กร Gyeore-eol Nation United ซึ่งทำงานกับผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือ ระบุว่า เชลยศึกทั้งสองได้ขอร้องให้โปรดิวเซอร์พาพวกเขาไปเกาหลีใต้ตอนสิ้นสุดการสัมภาษณ์

หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้และชาติตะวันตกระบุว่า ทหารเกาหลีเหนือราว 15,000 นาย ถูกส่งไปเข้าร่วมรบกับรัสเซียในสงครามกับยูเครนเมื่อปี 2024

นายจาง เปิดเผยว่า "พวกเขาอ้อนวอนผู้สัมภาษณ์ให้สัญญากับพวกเขาว่าจะกลับมาพาพวกเขาไปเกาหลีใต้" โดยการสัมภาษณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ณ สถานที่แห่งหนึ่งในกรุงเคียฟ

ตามรัฐธรรมนูญของเกาหลีใต้ ชาวเกาหลีทุกคนถือเป็นพลเมือง รวมถึงชาวเกาหลีเหนือด้วย และรัฐบาลเกาหลีใต้เคยประกาศว่านโยบายนี้มีผลใช้กับทหารเกาหลีเหนือที่ถูกจับเป็นเชลยในยูเครนเช่นกัน

สมาชิกสภานิติบัญญัติของเกาหลีใต้ที่เคยเข้าเยี่ยมเชลยศึกเหล่านี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ระบุว่า การส่งทหารเหล่านี้กลับไปยังเกาหลีเหนือถือเป็น "การตัดสินประหารชีวิตโดยพื้นฐาน" เนื่องจากหน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ทหารเกาหลีเหนือมีคำสั่งให้ฆ่าตัวตายมากกว่าการถูกจับเป็นเชลย และเชลยศึกเหล่านี้เคยเห็นเพื่อนร่วมรบที่บาดเจ็บใช้ระเบิดฆ่าตัวตายมาแล้ว

...

เกาหลีเหนือเพิ่งยอมรับว่ามีการส่งทหารไปสนับสนุนรัสเซียในเดือนเมษายน และยอมรับว่ามีผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้นำ คิม จอง อึน ได้พบกับครอบครัวผู้สูญเสีย อย่างไรก็ตาม หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ประเมินว่ามีทหารเกาหลีเหนือถูกสังหารในสนามรบแล้วประมาณ 2,000 นาย.


ที่มา Yonhap