สมาชิกคณะกรรมการสืบสวนของรัฐสภาสหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องให้ อดีตเจ้าชายแอนดรูว์เข้าให้การคดีเอปสตีนอีกครั้ง หลังจากเขาถูกคิงชาร์ลส์ที่ 3 ถอดพระอิสริยยศ
สำนักข่าว บีบีซี รายงานเมื่อ 1 พ.ย. 2568 ว่า สมาชิกคณะกรรมการกำกับดูแลและปฏิรูปรัฐบาล ของสภาคองเกรสสหรัฐฯ ซึ่งกำลังสืบสวนคดีทางเพศของนายเจฟฟรีย์ เอปสตีน อดีตนักการเงินผู้ล่วงลับ เพิ่มการเรียกร้องให้ อดีตเจ้าชายแอนดรูว์ หรือปัจจุบันใช้นามว่า แอนดรูว์ เมาต์แบตเทน วินด์เซอร์ เข้าให้การเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับนายเอปสตีน
สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงถอดพระอิสริยยศ "เจ้าชาย" ของแอนดรูว์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และเตรียมให้พระอนุชาพระองค์นี้ย้ายออกจากคฤหาสน์ “รอยัล ลอดจ์” (Royal Lodge) ภายในบริเวณพระราชวังวินด์เซอร์ เพื่อตอบรับกับกระแสความไม่พอใจต่อข่าวอื้อฉาวของแอนดรูว์ที่สั่งสมมานานหลายปี
สำนักพระราชวังบักกิงแฮมกล่าวว่า การลงโทษดังกล่าวมีความจำเป็น แม้ว่าแอนดรูว์จะยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ ที่มุ่งเป้ามาที่พระองค์ รวมถึงข้อหาล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์ อันเกี่ยวโยงกับนายเจฟฟรีย์ เอปสตีน อดีตนักการเงินผู้ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาค้าประเวณี
การถอดยศของแอนดรูว์ทำให้เกิดกระแสเรียกร้องในสหรัฐฯ ให้แอนดรูว์เปิดเผยทุกสิ่งที่รู้เกี่ยวกับนายเอปสตีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากถ้อยแถลงจากสำนักพระราชวัง ที่แสดงความเห็นใจต่อเหยื่อของการล่วงละเมิดทั้งหมด
บีบีซีรายงานว่า สมาชิกรัฐสภาจากพรรคเดโมแครตอย่างน้อย 4 คนในคณะกรรมการกำกับดูแลและปฏิรูปรัฐบาล (House Oversight Committee) ซึ่งกำลังสืบสวนการจัดการคดีของเอปสตีน ได้ยื่นคำร้องให้แอนดรูว์เข้าให้การเกี่ยวกับคดีนี้อีกครั้ง
นายราชา กฤษณามูรติ ส.ส. เดโมแครต และเป็นหนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการ 4 คนดังกล่าว ระบุว่า "สารภาพตามตรง มาปรากฏตัวต่อหน้ารัฐสภาสหรัฐฯ ให้การโดยสมัครใจ อย่ารอหมายเรียก โปรดมาให้การและบอกเราว่าคุณรู้อะไรบ้าง" "ทั้งหมดนี้ไม่เพียงเพื่อมอบความยุติธรรมแก่ผู้รอดชีวิตเท่านั้น แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกด้วย"
...
ขณะที่นายสุหาส สุพรามัณยัม ส.ส. เดโมแครตอีกคน กล่าวว่า แอนดรูว์สามารถเข้าให้การทางไกลพร้อมทนายความของเขา และพูดคุยกับคณะกรรมการแบบส่วนตัวได้
ขณะที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายคริส ไบรอันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของสหราชอาณาจักรบอกกับ บีบีซี ว่า แอนดรูว์ควรเดินทางไปยังสหรัฐฯ เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับเอปสตีน
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cna