ฝรั่งเศสตั้งข้อหาหญิงวัย 38 ปี ฐานเกี่ยวข้องกับคดีโจรกรรมเครื่องเพชรโบราณจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ นับเป็นรายที่ 2 ที่ถูกตั้งข้อหา ต่อจากผู้ต้องสงสัยหลัก 2 คนก่อนหน้านี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หญิงวัย 38 ปี ซึ่งถูกจับกุมในสัปดาห์นี้ สืบเนื่องจากการปล้นเครื่องเพชรมูลค่า 102 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.3 พันล้านบาท) ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ถูกนำตัวขึ้นศาลเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ในวันเสาร์ที่ 1 พ.ย. 2568 ขณะที่ทางการฝรั่งเศสยังคงเดินหน้าคลี่คลายหนึ่งในคดีโจรกรรมพิพิธภัณฑ์ที่อุกอาจที่สุดของประเทศ

ผู้หญิงคนดังกล่าว ซึ่งมีรายงานว่าร่ำไห้ขณะยืนยันตัวตนและให้การที่ศาลในย่าน ลา กูร์เนิฟ ชานเมืองทางเหนือของกรุงปารีส ถูกตั้งข้อหาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการโจรกรรมโดยองค์กรอาชญากรรม และสมคบคิดก่ออาชญากรรม ก่อนที่การไต่สวนในเวลาต่อมาจะดำเนินการแบบปิดตามคำร้องขอของอัยการ

ขณะนี้ตำรวจฝรั่งเศสควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการโจรกรรมที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เมื่อเดือนก่อนได้แล้ว 7 คน โดยที่ชาย 2 คนที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ถูกตั้งข้อหาลักทรัพย์และสมคบคิด หลังจากที่พวกเขาให้การภาคเสธ (ยอมรับบางส่วน) เกี่ยวกับการโจรกรรมครั้งนี้

เจ้าหน้าที่ระบุว่า หนึ่งในผู้ต้องสงสัยสองรายดังกล่าว เป็นชาวแอลจีเรียวัย 34 ปี ถูกระบุตัวตนจากดีเอ็นเอที่พบในสกูตเตอร์ที่ใช้หลบหนี ขณะที่อีกคนเป็นคนขับแท็กซี่ผิดกฎหมายวัย 39 ปี จากเมืองโอแบร์วิลลิเยร์ ถูกจับใกล้บ้านของเขา

ตำรวจยืนยันว่า สองคนนี้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุบุกรุกเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ ขณะที่มีผู้สมรู้ร่วมคิดรออยู่ด้านนอก และผู้ต้องสงสัยทั้งคู่เป็นที่รู้จักของตำรวจอยู่แล้วจากคดีลักทรัพย์ก่อนหน้านี้

ส่วนผู้ต้องสงสัยอีกห้าคนถูกจับกุมในสัปดาห์นี้ในพื้นที่แซน-แซงต์-เดอนีส์ และบริเวณใกล้เคียง แม้ว่าจะมีหนึ่งคนที่ถูกปล่อยตัวไปโดยไม่มีการตั้งข้อหา ซึ่งนาง โซเฟีย บูกรีน ทนายความฝ่ายจำเลย โจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าเป็นการ “เหวี่ยงแหจับปลา” ที่จับคนโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน

...

พนักงานสืบสวนยอมรับว่า ยังหาเครื่องประดับที่ถูกโจรกรรมไปไม่เจอ ไม่ว่าจะเป็น สร้อยคอที่ทำจากมรกตและเพชร ซึ่งจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เคยพระราชทานให้แก่จักรพรรดินีมารี-หลุยส์ หรือรัดเกล้าของจักรพรรดินีเออเฌนี ที่ฝังด้วยเพชรเกือบ 2,000 เม็ด ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ของเหล่านี้อาจสูญหายไปตลอดกาลแล้ว


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : cna