ผู้คนจำนวนมากแห่ต่อคิวเพื่อชมและสูดกลิ่นของดอกซากศพ ที่เพิ่งบานสะพรั่งในสวนพฤกษศาสตร์นิวยอร์ก ต้อนรับเทศกาลฮาโลวีน อย่างพอดิบพอดีในปีนี้
ดอกไม้หายากชนิดนี้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Amorphophallus titanum มีถิ่นกำเนิดจากเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย และถือเป็นหนึ่งในดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จุดเด่นคือมีกลิ่นเหม็นรุนแรง คล้ายเนื้อสัตว์เน่า หรือซากศพ ส่งกลิ่นออกไปได้ไกลหลายสิบเมตร เพื่อดึงดูดแมลงวันและด้วงซากศพให้มาช่วยผสมเกสร จึงถูกเรียกกันติดปากว่าดอกซากศพ
แม้จะมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ แต่ความพิเศษของมันอยู่ที่ช่วงเวลาการบาน ที่หายากและสั้นมาก โดยแต่ละดอกจะบานเพียง 24 ถึง 48 ชั่วโมงเท่านั้น และไม่สามารถคาดเดาการบานได้ล่วงหน้า ทำให้เมื่อดอกเริ่มบานขึ้นจริง ผู้คนต่างรีบมาชมอย่างตื่นเต้น เพราะถือเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
ทางสวนพฤกษศาสตร์นิวยอร์กได้จัด ถ่ายทอดสดให้ผู้คนทั่วโลกได้ชมภาพของดอกซากศพขนาดยักษ์นี้แบบเรียลไทม์ พร้อมเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวรีบเข้าชมก่อนที่ดอกจะหุบลงในไม่กี่วันข้างหน้า
...
ผู้ดูแลสวนพฤกษศาสตร์เปิดเผยว่า ดอกไม้ชนิดนี้ต้องใช้เวลาสะสมพลังงานจากเหง้าขนาดใหญ่ใต้ดินหลายปี ก่อนจะบานเพียงครั้งเดียว แล้วกลับเข้าสู่ช่วงพักตัวอีกยาวนาน ซึ่งทำให้การบานครั้งนี้ยิ่งพิเศษขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ ดอกซากศพยังได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก โดยมักถูกนำมาเป็นไฮไลต์ทางพฤกษศาสตร์ และเป็นแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแห่เข้าชมทุกครั้งที่มันบาน เพราะนอกจากรูปลักษณ์ที่แปลกตาแล้ว กลิ่นและช่วงเวลาบานอันสั้น ยังทำให้มันถูกขนานนามว่าเป็นดอกไม้ที่ทั้งน่ากลัวและน่าหลงใหลที่สุดในโลก
ที่มา : AP
คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ ดอกซากศพ