เฮอริเคนเมลิสซา พัดถล่มจาเมกา และเฮติ คร่าแล้ว 49 ศพ บ้านเรือนของประชาชนพังราบ หน่วยกู้ภัยเข้าถึงยาก ถนนขาด น้ำ-ไฟดับทั่วเกาะ ประชาชนหลายหมื่นคนรอความช่วยเหลือ ขณะที่คิวบาอพยพกว่า 7 แสนคน

วันที่ 30 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจาก พายุเฮอร์ริเคน “เมลิสซา” ( Melissa) เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 49 ศพ ในภูมิภาคแคริบเบียน โดยเฉพาะที่จาเมกาเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 19 ศพ และใน เฮติมีผู้เสียชีวิตอีก 30 ศพ ขณะที่หลายพื้นที่ยังถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

ดานา มอร์ริส ดิกสัน รัฐมนตรีสารสนเทศของจาเมกาเผยว่า  มีชุมชนทั้งหมู่บ้านที่ถูกตัดขาด และบางพื้นที่แทบราบเรียบ  โดยเฉพาะทางตะวันตกของประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ไม่ได้ทั่วเกาะ ประชาชนหลายพันคนต้องช่วยกันกู้ซากบ้านเรือนและทรัพย์สินจากโคลนและน้ำท่วม

แม้สนามบินหลักในกรุงคิงส์ตันกลับมาเปิดใช้งานได้บางส่วน แต่สนามบินภูมิภาคหลายแห่งยังไม่สามารถให้บริการเต็มที่ ถนนหลายสายพังเสียหายจนขนส่งความช่วยเหลือไม่ได้ อาทิ เส้นทางจากเมืองแมนเดวิลถึงแบล็คริเวอร์ ซึ่งปกติใช้เวลา 1 ชั่วโมง ต้องใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง เพราะถนนพังและเต็มไปด้วยต้นไม้หักโค่น

ภาพดาวเทียมเผยให้เห็นว่าหมู่บ้านบางแห่งในจาเมกาแทบถูกพายุถล่มจนไม่เหลือสิ่งปลูกสร้าง ขณะที่ชาวบ้านจำนวนมากบอกว่าไม่มีคำใดอธิบายความเสียหายได้

โดยที่ เฮติ พายุก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันจากแม่น้ำล้นตลิ่งที่เมือง เปอตีต์-โกฟ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ศพ และประชาชนราว 15,000 คน ต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงกว่า 120 แห่ง ตามรายงานขององค์การสหประชาชาติ

ส่วนใน คิวบา ทางการระบุว่ามีประชาชนกว่า 3 ล้านคน เผชิญสภาวะเสี่ยงชีวิต จากพายุ แต่สามารถอพยพได้แล้วราว 735,000 คน ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่มีชุมชนกว่า 240 แห่ง ถูกตัดขาดจากน้ำท่วมและดินถล่ม

...

พายุเมลิสซาขึ้นฝั่งที่จาเมกาเมื่อวันอังคาร ที่ผ่านมา ด้วยความเร็วลมสูงสุดถึง 295 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จัดเป็นพายุระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ก่อนจะเคลื่อนต่อไปถล่มเฮติ คิวบา และมุ่งหน้าสู่เบอร์มิวดา.