สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 3 กษัตริย์แห่งอังกฤษ เริ่มกระบวนการถอดยศ “เจ้าชาย”, เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และคำนำหน้าอื่นๆ ของเจ้าชายแอนดรูว์แล้ว จากปมฉาวที่เกี่ยวข้องกับเจฟฟรีย์ เอปสตีน

สำนักพระราชวังบักกิงแฮมเปิดเผยในวันพฤหัสบดีที่ 30 ต.ค. 2568 ว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงเริ่มกระบวนการเพื่อริบพระอิสริยยศของเจ้าชายแอนดรูว์ พระอนุชา และได้แจ้งให้พระองค์ย้ายออกจากคฤหาสน์ “รอยัล ลอดจ์” (Royal Lodge) ซึ่งเป็นที่ประทับของพระองค์แล้ว

เจ้าชายแอนดรูว์ พระชนมายุ 65 ชันษา ต้องเผชิญข้อครหาอีกครั้งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพระองค์กับนาย เจฟฟรีย์ เอปสตีน อดีตนักการเงินคนดังผู้ถูกตัดสินว่ามีความผิดคดีค้าประเวณีผู้ล่วงลับ หลังจากมีการเผยแพร่หนังสือบันทึกความทรงจำหลังการเสียชีวิตของ เวอร์จิเนีย จุฟเฟรย์ ผู้กล่าวหาพระองค์ว่าล่วงละเมิดทางเพศ ในชื่อเรื่อง “Nobody’s Girl”

น.ส.จุฟเฟรย์ ระบุในบันทึกความทรงจำว่า เจ้าชายแอนดรูว์ได้ล่วงละเมิดทางเพศเธอขณะที่เธอยังเป็นวัยรุ่น โดยเธอจบชีวิตตัวเองเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะมีอายุ 41 ปี ส่วนเจ้าชายแอนดรูว์ก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดที่มีต่อพระองค์ และอ้างว่าไม่เคยพบกับจุฟเฟรย์มาก่อน

ล่าสุดในวันพฤหัสบดี (30 ต.ค.) สำนักพระราชวังบักกิงแฮมออกแถลงการณ์ว่า “ในวันนี้ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงเริ่มกระบวนการอย่างเป็นทางการ เพื่อถอดถอนคำนำหน้า (Style), พระอิสริยยศ (Titles) และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (Honours) ของเจ้าชายแอนดรูว์”

“เจ้าชายแอนดรูว์จะถูกเรียกขานในนาม แอนดรูว์ เมาต์แบตเทน วินด์เซอร์ นับตั้งแต่นี้ไป ส่วนสัญญาเช่าที่ประทับ รอยัล ลอดจ์ ที่ให้ความคุ้มครองทางกฎหมายแก่พระองค์ในการเข้าประทับที่นั่นจนถึงวันนี้นั้น ขณะนี้ได้มีการแจ้งอย่างเป็นทางการให้ยกเลิกสัญญาเช่าแล้ว และพระองค์จะย้ายไปยังที่ประทับส่วนพระองค์แห่งอื่น”

...

“การตำหนิเหล่านี้ถือเป็นสิ่งจำเป็น แม้ว่าพระองค์จะยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาที่มีต่อพระองค์ก็ตาม” แถลงการณ์ของสำนักพระราชวังบักกิงแฮมระบุ

ด้านสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น อ้างว่าได้ข้อมูลมาว่า เจ้าชายแอนดรูว์จะย้ายไปประทับที่อสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งในเขตพระราชฐานแซนดริงแฮม ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์อังกฤษ ไม่ใช่ของ Crown Estate (สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์) ที่จัดการทรัพย์สินและที่ดินของราชวงศ์ โดยการย้ายที่ประทับนี้จะได้รับเงินทุนส่วนตัวจากสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ และจะเกิดขึ้นทันทีที่สามารถทำได้ในทางปฏิบัติ

ทั้งนี้คาดกันว่า การที่สำนักพระราชวังดำเนินการดังกล่าว เนื่องจากแม้จะรับทราบว่าเจ้าชายแอนดรูว์ยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดที่มีต่อพระองค์ แต่ก็เป็นที่แน่ชัดว่าพระองค์ทรงตัดสินใจผิดพลาดอย่างร้ายแรง

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีประกาศเรื่องการถอดยศดังกล่าว แต่เจ้าชายแอนดรูว์จะยังคงเป็น รัชทายาทลำดับที่ 8 แห่งราชวงศ์อังกฤษ สถานะดังกล่าวสามารถถูกถอดถอนได้ด้วยการออกกฎหมาย แต่จะต้องได้รับความยินยอมจากประเทศในเครือจักรภพทั่วโลกซึ่งจะต้องใช้เวลา โดยกระบวนการนี้ถูกใช้ครั้งล่าสุดตอนสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ทรงสละราชสมบัติในปี 2479

CNN เข้าใจว่า แทนที่จะถอดถอนพระอิสริยยศ ดยุกแห่งยอร์ก ของเจ้าชายแอนดรูว์อย่างเป็นทางการ ผ่านพระราชบัญญัติของรัฐสภา สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์จะทรงส่งพระราชโองการ (royal warrants) เพื่อถอดถอนฐานันดรศักดิ์ของเจ้าชายแอนดรูว์ที่เกี่ยวข้องกับยศ ดยุคแห่งยอร์ก, เอิร์ลแห่งอินเวอร์เนส และ บารอนแห่งคิลลีลีห์ แทน

ทั้งนี้ เจ้าชายแอนดรูว์เคยดำรงพระอิสริยยศดังกล่าว และครองเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดลำดับที่ 1 ของเครื่องราชอิสริยาภรณ์รอยัลวิกตอเรียน (GCVO) และเครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เตอร์อันทรงเกียรติสูงสุดของอังกฤษ (Order of the Garter) ซึ่งการถอดถอนพระอิสริยยศของพระองค์ได้มีผลทันที

สำนักพระราชวังบักกิงแฮมระบุเสริมในแถลงการณ์ว่า “องค์พระมหากษัตริย์และสมเด็จพระราชินีทรงปรารถนาที่จะแสดงความชัดเจนว่า พระองค์ยังคงมีความคิดคำนึงและความเห็นอกเห็นใจอย่างสุดซึ้ง ต่อเหยื่อและผู้รอดชีวิตจากการล่วงละเมิดทุกรูปแบบ”

ด้านเจ้าหญิงเบียทริซ และ เจ้าหญิงยูจีนี พระธิดาของเจ้าชายแอนดรูว์ จะยังคงรักษาพระอิสริยยศของพระองค์ไว้ เนื่องจากทรงเป็นพระธิดาของโอรสของพระประมุข ซึ่งเป็นไปตามกฎที่กำหนดไว้โดยสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 ในปี 2460

ส่วน ซาราห์ เฟอร์กูสัน อดีตพระชายาของเจ้าชายแอนดรูว์ ซึ่งอาศัยอยู่กับพระองค์ที่ รอยัล ลอดจ์ มาเป็นเวลา 20 ปี ก็จะย้ายออกเช่นกัน และเป็นที่เข้าใจกันว่าเธอกำลังดำเนินการจัดเตรียมที่อยู่ใหม่ด้วยตัวเอง


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : cnn