ฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ในเมืองเว้ เมืองหลวงเก่าของเวียดนาม สูงกว่า 1,000 มม./วัน ทำแม่น้ำเอ่อท่วม บ้านเรือน ฟาร์ม และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างนครเว้และฮอยอัน ถูกน้ำสูงระดับเอว ตัดขาดเส้นทางคมนาคมหลัก และต้องอพยพนักท่องเที่ยวกว่า 40,000 คน
เกิดน้ำท่วมใหญ่ครั้งรุนแรงในพื้นที่ภาคกลางของเวียดนาม จากอิทธิพลของฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือน พื้นที่เกษตรกรรม และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญระดับโลก เช่น เมืองเว้ อดีตเมืองหลวงเก่าของเวียดนาม และเมืองโบราณฮอยอัน
กรมอุตุนิยมวิทยาของเวียดนามรายงานว่า ปริมาณน้ำฝนในเมืองเว้ ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางของภาคกลาง วัดได้สูงถึง 1,085 มิลลิเมตร ภายใน 24 ชั่วโมง เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นปริมาณฝนที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกของเวียดนาม
ภายในเช้าวันอังคาร ระดับน้ำในแม่น้ำหอม สัญลักษณ์ของเมืองเว้ ได้เพิ่มสูงถึง 4.62 เมตร และระดับน้ำท่วมในเขตเมืองเก่าของเว้ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก รวมถึงเมืองเก่าฮอยอัน สูงถึงระดับเอว
ที่เมืองฮอยอัน มีการอพยพนักท่องเที่ยวด้วยเรือ หลังฝนที่ตกหนักและการระบายน้ำจากเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำหว่าย เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 2 เมตร
สื่อของรัฐรายงานว่า นักท่องเที่ยวประมาณ 40,000 คน ได้ถูกย้ายไปยังโรงแรมอื่นที่อยู่นอกพื้นที่น้ำท่วมเพื่อความปลอดภัย นายเหงียน ง็อก อันห์ เจ้าของโรงแรมใกล้แม่น้ำทูโบน ในฮอยอัน เปิดเผยว่า "น้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นเร็วมาก และเราต้องรีบย้ายแขกไปยังโรงแรมอื่นนอกพื้นที่น้ำท่วมอย่างรวดเร็วเพื่อความปลอดภัย" โดยทำได้เพียงแค่ปิดประตูโรงแรมก่อนที่จะอพยพออกมา
...
น้ำท่วมในเมืองเว้ทำให้บ้านเรือนจมน้ำและถนนสายหลักหลายสายถูกตัดขาด โดยชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจร เส้นทางรถไฟสายหลักระหว่างกรุงฮานอยทางเหนือ และเมืองโฮจิมินห์ทางใต้ ถูกระงับชั่วคราว ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารหลายพันคน
เพื่อป้องกันความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน เมื่อคืนวันจันทร์ ทางการรถไฟเวียดนามได้ใช้ ตู้รถไฟ 19 ตู้ ที่บรรทุกหินหนัก 980 ตัน วางบนสะพานแห่งหนึ่งเพื่อต้านทานกระแสน้ำท่วมไม่ให้พัดสะพานพัง มูลนิธิเพื่อเด็ก Blue Dragon Children’s Foundation ของออสเตรเลีย ระบุว่า มีประชาชนประมาณ 1,000 คน ในพื้นที่ชนบทของจังหวัดเถื่อเทียนเว้ ถูกตัดขาด จากน้ำท่วมและดินถล่ม ซึ่งในจำนวนนี้มีเด็กที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิ 200 คน
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ภาวะโลกร้อน คือปัจจัยที่ทำให้พายุโซนร้อนมีความรุนแรงและมีฝนตกหนักมากขึ้น เนื่องจากมหาสมุทรที่อุ่นขึ้นเป็นตัวกระตุ้น ทำให้เกิดลมที่รุนแรงขึ้น ปริมาณน้ำฝนที่มากขึ้น และส่งผลต่อรูปแบบการตกของฝนทั่วเอเชียตะวันออก
เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมมากที่สุดในโลก โดยมีประชากรเกือบครึ่งหนึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย.
ที่มา AFP