พรรคการเมืองที่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการเลือกตั้งที่จัดโดยรัฐบาลทหารพม่า เริ่มต้นการหาเสียงในวันนี้ ก่อนการเลือกตั้งจะเริ่มในวันที่ 28 ธันวาคม แต่การเลือกตั้งดังกล่าวถูกมองทั้งจากในประเทศและต่างประเทศว่าเป็นเพียงกลยุทธ์สร้างความชอบธรรมให้ระบอบเผด็จการ ขณะที่ประเทศยังจมอยู่ในสงครามกลางเมือง และประชาชนส่วนใหญ่ไม่สนใจการเลือกตั้งครั้งนี้

พม่าตกอยู่ภายใต้สงครามกลางเมืองนับตั้งแต่กองทัพเข้ายึดอำนาจด้วยการทำรัฐประหารเมื่อปี 2021 โดยโค่นล้มและคุมขังนางออง ซาน ซูจี ผู้นำประชาธิปไตย ซึ่งพรรคของเธอได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด แม้รัฐบาลทหารจะสูญเสียพื้นที่ส่วนใหญ่ให้กับกองกำลังต่อต้านประชาธิปไตยและกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ แต่ก็ยังคงผลักดันการเลือกตั้งโดยอ้างว่าเป็นหนทางสู่การปรองดอง

กลุ่มกบฏต่อต้านได้ประกาศบอยคอตการลงคะแนนเสียง ในพื้นที่ขนาดใหญ่ที่พวกเขายึดครอง ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนและผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ ได้ประณามเงื่อนไขที่จำกัดของการเลือกตั้งในเขตที่รัฐบาลทหารควบคุม

ขณะที่ชาวพม่าจำนวนมากแสดงท่าทีไม่แยแสต่อการเลือกตั้ง โดยชาวเมืองซิตตเว รัฐยะไข่ วัย 60 ปี ให้ความเห็นว่า "การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีความหมายสำหรับผม มันไม่ใช่การเลือกตั้งที่แท้จริง และผมไม่เห็นว่ามีใครสนับสนุนมัน" และเสริมว่าผู้คนกำลังดิ้นรนกับปัญหาปากท้องจนไม่มีเวลาสนใจการเมือง "ผมเห็นคนขอทานมากขึ้นเรื่อย ๆ ในเมือง เพราะผู้คนอดอยาก" ด้านพลเรือนที่ต้องพลัดถิ่นไปยังเมือง มัณฑะเลย์ กล่าวว่า "ไม่น่าจะไปลงคะแนนเสียง และผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองอยู่ในรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งหรือไม่ พวกเราไม่ได้สนใจมากนัก พวกเราแค่ต้องการกลับบ้าน"

ทั้งนี้ มี 57 พรรคการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้งที่จะเริ่มขึ้นเป็นระยะตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม โดยพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของนางออง ซาน ซูจี ซึ่งชนะถึง 82% ของที่นั่งในการเลือกตั้งปี 2020 จะไม่เข้าร่วมการเลือกตั้ง เนื่องจากรัฐบาลทหารได้สั่งยุบพรรคและตั้งข้อกล่าวหาการทุจริตการเลือกตั้งที่ไม่มีหลักฐาน

...

พรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) ซึ่งเป็นพรรคสนับสนุนกองทัพ มีแผนจะเริ่มต้นหาเสียงด้วยการติดตั้งป้ายในกรุงเนปิดอว์ และเผยแพร่โฆษณาทางสื่อของรัฐในช่วงเย็นวันนี้ (28 ต.ค.) อย่างไรก็ตาม คาดว่าบรรยากาศการหาเสียงโดยทั่วไปจะเงียบเหงาและมีมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง เนื่องจากสถานการณ์สงครามกลางเมือง

แหล่งข่าวทางการทูตเปิดเผยว่า สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) จะไม่ส่งผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมการเลือกตั้งครั้งนี้ หลังจากที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มได้เรียกร้องให้งดการส่งผู้สังเกตการณ์เพื่อไม่ให้เป็นการให้ความชอบธรรมต่อการเลือกตั้งที่เชื่อว่ามีข้อบกพร่องอย่างร้ายแรง

รัฐบาลทหารยังได้ออกกฎหมายลงโทษผู้ที่ประท้วงต่อต้านการเลือกตั้งด้วยโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี และใช้กฎหมายอาชญากรรมทางไซเบอร์เพื่อควบคุมการสื่อสารที่ "บ่อนทำลายความสามัคคี"

รัฐบาลทหารยอมรับว่า 1 ใน 7 ของเขตเลือกตั้งสำหรับรัฐสภาแห่งชาติ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่สงครามที่ยังมีการสู้รบจะไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ และยังคงมีการประกาศกฎอัยการศึก ใน 1 ใน 5 ของเมืองทั้งหมดในประเทศ.


ที่มา AFP