จีนและอาเซียนร่วมลงนามเขตการค้าเสรี จีน-อาเซียน 3.0 ส่งเสริมบูรณาการทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค และการค้าระหว่างประเทศให้แข็งแกร่ง ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 ช่วงเช้าวันสุดท้าย
นายซาฟรูล อาซิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุน การค้า และอุตสาหกรรม ของมาเลเซีย และนายหวาง เหวินเทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีน ร่วมลงนามยกระดับเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน 3.0 หรือ ACFTA 3.0 โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เป็นสักขีพยาน จากนั้นข้อตกลง ได้ถูกนำเสนอต่อเลขาธิการอาเซียน
สำหรับ ACFTA 3.0 เป็นการยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ หลังจากความตกลงฉบับแรกมีผลบังคับใช้มากว่า 20 ปี โดยเพิ่มประเด็นใหม่ที่สอดคล้องกับโลกปัจจุบัน ทั้ง เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว และความเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน
สาระสำคัญ เช่น การคุ้มครองผู้บริโภคออนไลน์ ดูแลความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล ความมั่นคงไซเบอร์ และเอื้อให้ธุรกิจรายย่อยเข้าสู่ตลาดดิจิทัลได้ง่ายขึ้น การเปิดช่องทางร้องเรียน–เยียวยาข้ามประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค การสนับสนุนการค้าสีเขียว การลงทุนเพื่อความยั่งยืน และมาตรการลดการปล่อยคาร์บอน เสริมศักยภาพธุรกิจขนาดเล็กสู่ตลาดโลก พร้อมระบบแบ่งปันข้อมูลและแนวปฏิบัติที่ดี
...
ตามข้อมูลของอาเซียน จีนถือเป็น คู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกลุ่มอาเซียน โดยมูลค่าการค้ารวมระหว่างกันในปีที่แล้วอยู่ที่ 771,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 28 ล้านล้านบาท
จีนกำลังพยายามเสริมสร้างความร่วมมือกับอาเซียน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีมูลค่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) รวมกว่า 3.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรับมือกับ ภาษีนำเข้าขนาดใหญ่ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำหนดขึ้นต่อหลายประเทศทั่วโลก
แม้จะเผชิญเสียงวิจารณ์จากประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ เกี่ยวกับการจำกัดการส่งออกสินทรัพย์สำคัญอย่างแร่หายากและแร่เชิงกลยุทธ์ต่าง ๆ แต่ปักกิ่งยังคงพยายาม แสดงบทบาทในฐานะเศรษฐกิจที่เปิดกว้างมากขึ้น
การเจรจาข้อตกลงอาเซียน–จีนฉบับอัปเกรดนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2022 และสิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สหรัฐฯ เริ่มเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้ากับหลายประเทศอย่างเข้มงวด ข้อตกลงการค้าเสรีฉบับแรกของอาเซียน–จีนมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2010
จีนเคยระบุว่า FTA ฉบับใหม่จะช่วย ขยายการเข้าถึงตลาดในภาคเกษตร เศรษฐกิจดิจิทัล และอุตสาหกรรมยา ระหว่างจีนและอาเซียน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการทั้งสองฝ่าย
ทั้งจีนและอาเซียนยังเป็นสมาชิกของ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมประชากรราวหนึ่งในสามของโลก และมีสัดส่วนราว 30% ของ GDP โลก โดยมาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด RCEP ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการจัดประชุมครั้งแรกในรอบ 5 ปี
นักวิเคราะห์บางรายมองว่า ข้อตกลงระหว่างอาเซียนและจีน รวมถึง RCEP อาจช่วยทำหน้าที่เป็นกันชนทางเศรษฐกิจต่อ มาตรการภาษีของสหรัฐฯ ได้ในระดับหนึ่ง แม้ข้อตกลงนี้จะมีข้อจำกัดในบางประเด็น เนื่องจากผลประโยชน์ที่แตกต่างกันของประเทศสมาชิกอาเซียนแต่ละราย.
ที่มา : Reuters
คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ การประชุมอาเซียน