ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางถึงญี่ปุ่นแล้ว เพื่อพบปะกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซานาเอะ ทาคาอิจิ เป็นครั้งแรก ท่ามกลางกระแสข่าวเชิงบวกจากเจ้าหน้าที่ทั้งสหรัฐฯ และจีน ว่าข้อตกลงการค้าสำคัญระหว่างสองชาติมหาอำนาจใกล้จะบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นแล้ว ก่อนการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในวันพฤหัสบดีนี้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ววันนี้ (27 ต.ค.) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเยือนเอเชียที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม โดยวาระสำคัญของการเดินทางครั้งนี้คือการผลักดันนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" และการปรับสมดุลเศรษฐกิจโลกตามวิสัยทัศน์ของเขา
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันก่อนลงจอดในกรุงโตเกียวว่า เขาหวังว่าจะเพิ่มข้อตกลงทางการค้ากับจีนเข้าในชุดข้อตกลงที่เขาได้ลงนามไปแล้วระหว่างการเยือนเอเชียในสัปดาห์นี้ "ผมให้ความเคารพอย่างมากต่อประธานาธิบดีสี และผมคิดว่าเราจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้" ทรัมป์กล่าว
หลังจากลงจากเครื่องบิน ทรัมป์ได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติ ก่อนที่จะเดินทางไปยังพระราชวังอิมพีเรียลเพื่อเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ โดยทรัมป์ถือเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ นับตั้งแต่พระองค์ขึ้นครองราชย์ในปี 2019
คณะผู้เจรจาจากจีนและสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน กำลังใกล้เข้ามา โดยได้บรรลุฉันทามติเบื้องต้นที่จะให้ทรัมป์และนายสี จิ้นผิง ตั้งเป้าหมายในการสรุปข้อตกลงให้เสร็จสิ้นระหว่างการประชุมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในวันพฤหัสบดีนี้
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า ทีมเจรจาได้จัดทำกรอบข้อตกลงในวันอาทิตย์ เพื่อระงับการขึ้นภาษีที่สูงขึ้นของสหรัฐฯ และการควบคุมการส่งออกแร่หายากของจีน ซึ่งข่าวนี้ส่งผลให้ ตลาดหุ้นเอเชียพุ่งทำสถิติสูงสุด
...
นอกจากนี้ นายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ซึ่งร่วมคณะมาด้วย เปิดเผยว่า กรอบข้อตกลงโดยรวมกับเกาหลีใต้ก็เสร็จสมบูรณ์แล้วเช่นกัน แต่จะยังไม่มีการสรุปข้อตกลงภายในสัปดาห์นี้
ทรัมป์มีกำหนดการพบปะกับ นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น ในวันอังคารนี้ ซึ่งทาคาอิจิเป็นศิษย์รักของอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีและชื่นชอบกีฬากอล์ฟเช่นเดียวกับทรัมป์
ทาคาอิจิ ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้กล่าวกับทรัมป์ในการสนทนาทางโทรศัพท์ครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ว่า การเสริมสร้างความเป็นพันธมิตรระหว่างประเทศถือเป็น "วาระสำคัญสูงสุด" ของเธอ ในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ทาคาอิจิหวังที่จะสร้างความประทับใจให้กับทรัมป์ด้วยการให้คำมั่นที่จะ ซื้อรถกระบะ ถั่วเหลือง และก๊าซจากสหรัฐฯ เพิ่มเติม นอกเหนือจากคำมั่นด้านการลงทุนมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์ ที่ญี่ปุ่นเคยให้ไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากประเด็นการค้า ทาคาอิจิยังเตรียมให้ความมั่นใจแก่ทรัมป์ว่าญี่ปุ่นพร้อมจะทำ เพิ่มขึ้นในด้านความมั่นคง หลังจากที่เธอได้แจ้งต่อสมาชิกรัฐสภาเมื่อวันศุกร์ถึงแผนการเร่งรัดการสร้างเสริมศักยภาพทางกลาโหมครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง
การเดินทางเยือนเอเชียของทรัมป์ครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางปัญหาภายในประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์การชัตดาวน์ของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยังคงยืดเยื้อ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐหลายคนไม่ได้รับเงินเดือนเต็มจำนวนงวดแรก และยังทำให้เกิดความไม่แน่นอนด้านความช่วยเหลือด้านอาหารของรัฐบาลกลาง
ขณะเดียวกัน ทางการญี่ปุ่นได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายพันนายเพื่อรักษาความปลอดภัยในกรุงโตเกียวหลังเกิดเหตุการณ์ชายถือมีดถูกจับกุมนอกสถานทูตสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ และมีการวางแผนจัดกิจกรรมประท้วงต่อต้านทรัมป์ในย่านชินจูกุ.
ที่มา Reuters