นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย แสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในขณะที่ผู้นำสิงคโปร์ร่วมแสดงความอาลัยเช่นเดียวกัน

วันที่ 26 ตุลาคม 2568 นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีของอินเดีย โพสต์ข้อความผ่านบัญชีเอ็กซ์ แสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยยกย่องพระราชจริยวัตรและพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ในฐานะแบบอย่างแห่งการอุทิศพระองค์เพื่อประชาชน

ข้อความระบุว่า "ข้าพเจ้ารู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่งต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระองค์ทรงอุทิศพระชนมชีพเพื่อประชาชน ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้คนรุ่นแล้วรุ่นเล่า" พร้อมทั้งแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และ ประชาชนชาวไทย ในช่วงเวลาแห่งความโศกอันใหญ่หลวงนี้

ข้อความของนายกรัฐมนตรีอินเดีย ได้รับการเผยแพร่และส่งต่ออย่างกว้างขวางในอินเดียและประเทศต่างๆ ทั่วเอเชียใต้ สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่าง ราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐอินเดีย ที่ยืนยาวทั้งด้านวัฒนธรรม ศาสนา และมิตรภาพระหว่างประชาชนสองประเทศ 

ทางด้าน ผู้นำสิงคโปร์ร่วมแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยรัฐบาลสิงคโปร์ได้ออกแถลงการณ์ผ่านกระทรวงการต่างประเทศเมื่อวันอาทิตย์ (26 ต.ค.) ระบุว่าได้ส่งสารแสดงความเสียใจไปยังพระบรมวงศานุวงศ์ รัฐบาล และประชาชนชาวไทย

ประธานาธิบดีทาร์แมน ชันมูการัตนัม แห่งสิงคโปร์ ส่งสาส์นถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในนามของชาวสิงคโปร์ โดยกล่าวว่า รู้สึกโศกเศร้าอย่างสุดซึ้งต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

...

พร้อมกันนี้ได้แสดงความชื่นชมว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงมีพระชนมชีพที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ ทรงเป็นคู่พระบารมีที่มั่นคงเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และด้วยพระราชดำริด้านผ้าไทย งานหัตถศิลป์ และการพัฒนาชนบท ได้ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะสตรีและเด็กในถิ่นทุรกันดาร

ขณะที่นายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง ได้ส่งสารถึงนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ในนามรัฐบาลสิงคโปร์ โดยกล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงเป็นที่รักและเคารพของประชาชนชาวไทย ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยพระเมตตาและความมั่นคงเคียงข้างในหลวงรัชกาลที่ 9 ตลอดรัชกาล

พร้อมกันนี้ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า พระราชกรณียกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน การส่งเสริมสวัสดิการสตรีและเด็ก และการอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน สะท้อนถึงพระปรีชาสามารถและสายพระเนตรอันยาวไกล ซึ่งจะยังคงส่งผลดีต่อประชาชนชาวไทยต่อไป

ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ ดร.วิเวียน บาลากฤษณะ ได้มีจดหมายถึงนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย โดยกล่าวอาลัยว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ จะทรงเป็นที่จดจำในฐานะ "แม่ของแผ่นดิน" ผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรัก ความเมตตา และความเสียสละเพื่อปวงชนชาวไทย

ดร.วิเวียน กล่าวยกย่องว่า สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงร่วมกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากกว่า 4,000 โครงการ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และทรงดำรงตำแหน่งนายกสภากาชาดไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2499 ทรงอุทิศพระองค์เพื่อการกุศลและสันติสุขของชาติ โดยพระองค์ทรงทิ้งร่องรอยแห่งพระเมตตาและพระปรีชาสามารถไว้ในสังคมไทย ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างตลอดไป.