อันวาร์ อิบราฮิม กล่าวเปิดการประชุมอาเซียน ระบุว่า อาเซียนกำลังกระชับความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ ขยายการค้า และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และต้อนรับติมอร์-เลสเตเข้าสู่ "ครอบครัว"

เมื่อ 26 ต.ค. 2568 นายอันวาร์ อิบราฮิม ในฐานะนายกรัฐมนตรีมาเลเซียและประธานเวียนของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน (ASEAN) กล่าวเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนวันแรกที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยระบุว่า อาเซียนจะต้องมีความกล้าหาญในการสร้างความร่วมมือใหม่ ๆ และกระชับความร่วมมือที่มีอยู่ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ท่ามกลางการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทาน

“สันติภาพและความมั่งคั่งที่ค่อนข้างมั่นคงซึ่งอาเซียนได้รับมาตลอดเกือบหกทศวรรษนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง” นายอันวาร์กล่าว “สิ่งเหล่านี้จะต้องได้รับการฟื้นฟูผ่านความร่วมมือ และแข็งแกร่งขึ้นด้วยการมีเป้าหมายร่วมกัน นั่นคือเหตุผลที่อาเซียนกำลังกระชับความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ ขยายการค้า และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน”

นักวิเคราะห์ได้ยกให้การประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้องในปีนี้ เป็นการประชุมที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปี เนื่องจากมีบุคคลสำคัญมากมายเข้าร่วมการประชุม ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน

นอกจากผู้นำอาเซียนแล้ว ผู้เข้าร่วมยังรวมถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเดินทางมาถึงในช่วงเช้าวันอาทิตย์ และได้รับการต้อนรับจากนายอันวาร์ที่สนามบิน, นายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เฉียง, นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่ ซานาเอะ ทาคาอิจิ, ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ซีริล รามาโฟซา และประธานาธิบดีบราซิล ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา

...

“ปี 2025 เป็นปีที่ต้องการสิ่งต่าง ๆ จากเรามากขึ้น โลกดูไม่มั่นคง – ระเบียบเก่าไม่แน่นอนอีกต่อไป ขณะที่ระเบียบใหม่ยังไม่ได้ถูกกำหนด” นายอันวาร์กล่าว “ทั่วทุกภูมิภาค เราเห็นการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นและความไม่แน่นอนที่ขยายตัว ลมปะทะเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทดสอบเศรษฐกิจของเราเท่านั้น แต่ยังทดสอบความมุ่งมั่นโดยรวมของเราที่จะรักษาศรัทธาในความร่วมมือ และความเชื่อที่ว่า ความเข้าใจและการเจรจายังคงสามารถมีชัยได้ในยุคที่แตกแยกนี้”

นายอันวาร์ยังยกตัวอย่างความร่วมมือใหม่ๆ ที่อาเซียนได้สร้างขึ้นและการกระชับความร่วมมือที่มีอยู่แล้วให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยชี้ไปที่การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ครั้งที่ 2 และการประชุมสุดยอดอาเซียน-GCC-จีน เมื่อต้นปีนี้

ประธานอาเซียนกล่าวด้วยว่า การประชุมสุดยอดผู้นำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ครั้งที่ 5 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันจันทร์นี้ ก็จะส่งเสริมเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ ให้บรรลุศักยภาพสูงสุดอย่างเต็มที่

นอกจากนั้น ในการประชุมอาเซียนครั้งนี้จะมีการยกระดับ “ความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน” (ATIGA) ด้วย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างตลาดระดับภูมิภาคที่ราบรื่นยิ่งขึ้นสำหรับภาคธุรกิจและแรงงาน

อนึ่ง ATIGA มีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการเคลื่อนย้ายสินค้าอย่างเสรีระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ส่งผลให้ต้นทุนทางธุรกิจลดลง การค้าเพิ่มขึ้น และมีตลาดที่ใหญ่ขึ้น รวมถึงเกิดการประหยัดจากขนาดที่ใหญ่ขึ้น (economies of scale) สำหรับภาคธุรกิจ

นับจนถึงปี 2563 ที่ผ่านมา ATIGA ได้ยกเลิกภาษีศุลกากรสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ค้าขายกันภายในอาเซียนไปแล้ว 98.6 เปอร์เซ็นต์ แต่ที่ประชุมอาเซียนมีเป้าหมายที่จะลดภาษีศุลกากรลงภายใต้ข้อตกลง ATIGA ลงอีก และขจัดอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากรระหว่างประเทศสมาชิก

นายอันวาร์ยังกล่าวต้อนรับติมอร์-เลสเต เข้าเป็นสมาชิกใหม่ของอาเซียนอย่างเป็นทางการ โดยระบุว่า การรับติมอร์-เลสเตเข้าเป็นสมาชิกอย่างเป็นประวัติการณ์ครั้งนี้ ทำให้อาเซียนเป็น “ครอบครัวที่สมบูรณ์” โดยเป็นการยืนยันชะตากรรมร่วมกันของเราและความรู้สึกผูกพันในภูมิภาคอย่างลึกซึ้ง

“ภายใต้ประชาคมนี้ การพัฒนาและความเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์ของติมอร์-เลสเตจะได้รับการสนับสนุนอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายอันวาร์กล่าว


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : cna