ติมอร์-เลสเต ได้ก้าวเข้าสู่การเป็นสมาชิกอย่างเต็มตัวของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ลำดับที่ 11 อย่างเป็นทางการแล้ว นับเป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์สำหรับทั้งประเทศและประชาคมอาเซียน โดยการขยายตัวครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี และทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีตัวแทนครบถ้วนทางภูมิศาสตร์
ติมอร์-เลสเต (Timor-Leste) ได้เข้าเป็นภาคีสมาชิกของอาเซียนอย่างเป็นทางการในวันนี้ (26 ตุลาคม) ในฐานะสมาชิกลำดับที่ 11 ของกลุ่ม โดยมีการลงนามในปฏิญญาว่าด้วยการรับติมอร์-เลสเตเข้าเป็นสมาชิกอาเซียน ระหว่างพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ณ ศูนย์การประชุมกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
การเข้าร่วมเป็นสมาชิกนี้เป็นการขยายตัวครั้งแรกของอาเซียนในรอบ 26 ปี นับตั้งแต่กัมพูชาเข้าร่วมในปี 1999 ซึ่งทำให้องค์กรนี้ครอบคลุมประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครบถ้วนทางภูมิศาสตร์แล้ว
ผู้นำที่ร่วมลงนาม ในเอกสารประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม, นายกรัฐมนตรีไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล, นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลอว์เรนซ์ หว่อง, นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต, นายกรัฐมนตรีลาว สอนไซ สีพันดอน, นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่าม มิงห์ จิ๋ง, ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ปราโบโว ซูเบียนโต, ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ และ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน สุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ โดยมี นายนายเคย์ ราลา ซานานา กุสเมา นายกรัฐมนตรีติมอร์-เลสเต เป็นตัวแทนประเทศ
การลงนามดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ติมอร์-เลสเตได้ยื่น เอกสารภาคยานุวัติสาร (Instruments of Accession) ต่อกฎบัตรอาเซียน และสนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEANWFZ) เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นขั้นตอนทางกฎหมายสุดท้ายในการเป็นสมาชิกอาเซียนเต็มตัว
...
ติมอร์-เลสเต เป็นประเทศเกิดใหม่ที่สุดในภูมิภาคนี้ โดยได้รับเอกราชเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2002 และได้ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมอาเซียนอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2011 หรือกว่าหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา
ความคืบหน้าครั้งสำคัญเกิดขึ้นในปี 2022 ในการประชุมสุดยอดอาเซียนที่พนมเปญ ซึ่งผู้นำอาเซียนได้มีมติเห็นชอบในหลักการรับติมอร์-เลสเตเป็นสมาชิกลำดับที่ 11 และให้สถานะผู้สังเกตการณ์ในการเข้าร่วมการประชุมต่างๆ ของอาเซียน รวมถึงการประชุมสุดยอด
ต่อมาในการประชุมสุดยอดอาเซียน ปี 2023 ที่อินโดนีเซีย ผู้นำได้ให้การรับรองแผนงานสู่การเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของติมอร์-เลสเต ซึ่งมุ่งเน้นการเสริมสร้างสถาบัน การพัฒนาทุนมนุษย์ และการสร้างขีดความสามารถ
ติมอร์-เลสเต ซึ่งมีประชากรประมาณ 1.4 ล้านคน และเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่ใช้ภาษาโปรตุเกส เป็นภาษาราชการ ยังคงพึ่งพาการส่งออกน้ำมันและก๊าซเป็นหลัก โดยมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เติบโตขึ้นร้อยละ 3.4 ในปี 2024 และคาดว่าจะขยายตัวถึงร้อยละ 3.9 ในปี 2025
ประธานาธิบดี โฮเซ่ รามอส-ฮอร์ต้า ได้กล่าวแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อมาเลเซียและนายกรัฐมนตรีอันวาร์ สำหรับการสนับสนุนอย่างแน่วแน่ต่อการเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต
ประธานาธิบดีรามอส-ฮอร์ต้า กล่าวว่า "เราขอบคุณมาเลเซียและผู้นำอาเซียนทุกท่านสำหรับความเชื่อมั่นว่าเราสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสมาชิกอาเซียนได้ เราอาจมีจุดอ่อน แต่เราสัญญาว่าจะปรับปรุงและทำให้ดีขึ้น"
นอกจากนี้ รามอส-ฮอร์ต้า ยังให้คำมั่นว่า ติมอร์-เลสเตจะเป็น "มิตรที่ซื่อสัตย์และมั่นคงของอาเซียน" มุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมต่อสันติภาพ เสถียรภาพ และภราดรภาพทั่วทั้งภูมิภาค โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์อาเซียนในการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และช่วยให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นดินแดนแห่งสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และความยุติธรรม.
ที่มา BERNAMA