ทางการไทยเผยมีชาวต่างชาติและชาวไทย มากกว่า 1,000 คน หลั่งไหลข้ามพรมแดนจากพม่าสู่ฝั่งไทยในสัปดาห์นี้ หลังทหารพม่าบุกจู่โจมศูนย์สแกมเมอร์ "เคเคพาร์ก" หนึ่งในฐานปฏิบัติการคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ขณะที่ทางการไทยเตรียมตรวจสอบว่าผู้หลบหนีเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ หรือผู้กระทำผิดกฎหมายเข้าเมือง
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานระบุเจ้าหน้าที่ไทยเปิดเผยว่า มีผู้คนมากกว่า 1,000 คน หลบหนีจากพื้นที่ชายแดนพม่าเข้ามาในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หลังจากที่กองทัพพม่าได้ปฏิบัติการบุกเข้าทลาย "เคเคพาร์ก" ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่
ศูนย์ปฏิบัติการหลอกลวงทางไซเบอร์ที่มักตั้งอยู่ในอาคารที่มีการเสริมกำลังอย่างแน่นหนาเหล่านี้ เติบโตอย่างรวดเร็วตามแนวชายแดนพม่า ท่ามกลางสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมานานหลายปี
ทางการจังหวัดตากรายงานว่า มีผู้ข้ามพรมแดนจากพม่าเข้าสู่อำเภอแม่สอด ตั้งแต่ช่วงเช้าวันพุธถึงเช้าวันศุกร์ (22 - 24 ต.ค.) รวมจำนวน 1,049 คน เพิ่มขึ้นจาก 677 คนในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไทยระบุว่า ผู้ที่เดินทางเข้ามาส่วนใหญ่เป็นชาวจีน และเป็นผู้ชาย อย่างไรก็ตาม ผู้ที่หลบหนีเข้ามานั้นมีหลากหลายสัญชาติ เช่น อินเดีย ปากีสถาน เวียดนาม พม่า ไทย และอีกกว่าสิบประเทศ
กองทัพพม่าได้ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า ได้ทำการบุกเข้าทลายศูนย์สแกมเมอร์ "เคเคพาร์ก" ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามพรมแดนไทย และสามารถยึดอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงก์ ได้หลายเครื่อง
ก่อนหน้านี้ การสืบสวนของสำนักข่าวเอเอฟพี เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า มีการใช้อุปกรณ์สตาร์ลิงก์ ในศูนย์ปฏิบัติการเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขณะที่บริษัทสเปซเอ็กซ์ ของ อีลอน มัสก์ ผู้ให้บริการสตาร์ลิงก์ ได้ออกมากล่าวเมื่อวันพุธว่า ได้สั่งปิดการใช้งานอุปกรณ์สตาร์ลิงก์ มากกว่า 2,500 เครื่องในศูนย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ของพม่าแล้ว
...
นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า ทางการเชื่อว่าผู้ที่หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยส่วนใหญ่น่าจะมาจากศูนย์สแกมเมอร์ "เคเคพาร์ก" แต่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ภาพจากสื่อไทยยังเผยให้เห็นภาพของผู้คนที่ใช้ลังโฟมลอยข้ามแม่น้ำเพื่อเข้ามายังฝั่งไทย
รองผู้ว่าฯ ตาก กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการคัดกรอง เพื่อตรวจสอบว่าผู้ที่เดินทางเข้ามาเหล่านี้เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์หรือไม่ ซึ่งในทางกลับกันหากไม่เข้าข่ายการเป็นเหยื่อก็อาจถูกดำเนินคดีในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ในศูนย์สแกมเมอร์เหล่านี้ แม้ว่าผู้คนบางส่วนจะถูกหลอกลวงและบังคับให้ทำงานในลักษณะการค้ามนุษย์ แต่บางคนก็สมัครใจเข้ามาทำงาน โดยหวังว่าจะได้รับรายได้จำนวนมากจากอุตสาหกรรมที่ผิดกฎหมายมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ มากกว่าการทำงานในประเทศบ้านเกิดของตนเอง.
ที่มา AFP