กลายเป็นคดีโด่งดังในเกาหลีใต้ เมื่อพนักงานส่งของรายหนึ่งต้องเผชิญกับการต่อสู้ทางกฎหมายที่ยาวนานกว่าหนึ่งปี หลังถูกกล่าวหาว่า "ขโมย" ขนม "ช็อกโกพาย" และคัสตาร์ดเค้ก มูลค่ารวมเพียง 1,050 วอน (ราว 24 บาท) จากตู้เย็นที่ทำงาน แม้ศาลชั้นต้นสั่งปรับ 50,000 วอน แต่เจ้าตัวยืนยันบริสุทธิ์และยื่นอุทธรณ์ ขณะที่ค่าธรรมเนียมทางกฎหมายอาจสูงกว่ามูลค่าขนมถึง 10,000 เท่า ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสมของการบังคับใช้กฎหมายกับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้
คดีดังกล่าวกำลังเป็นประเด็นร้อนแรงที่ถูกเรียกว่า "คดีขโมยช็อกโกพาย" ในเกาหลีใต้ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2024 เวลาประมาณตี 4 ที่โรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดช็อลลาเหนือ พนักงานขับรถส่งของบริษัทผู้รับเหมา ถูกกล่าวหาว่าหยิบขนม ช็อกโกพาย (มูลค่า 400 วอน) และ มินิคัสตาร์ดเค้ก (มูลค่า 650 วอน) รวมมูลค่าเพียง 1,050 วอน (ประมาณ 24 บาท) ออกมาจากตู้เย็นในสำนักงานของบริษัทโลจิสติกส์ที่เป็นคู่ค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
คนงานรายนี้ยืนยันว่าเขาไม่มีเจตนาขโมย และอ้างว่าพนักงานขับรถคนอื่นเคยบอกเขาว่า "มีขนมในตู้เย็น กินได้เลย" อีกทั้งการกินขนมดังกล่าวหลังกะกลางคืนก็เป็นธรรมเนียมปฏิบัติร่วมกันของพนักงาน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยืนยันว่าพนักงานขับรถไม่ได้รับอนุญาตให้ "เปิดตู้เย็นโดยไม่ได้รับอนุญาต" เว้นแต่จะได้รับเสนอขนมอย่างชัดเจน และได้ยื่นเรื่องร้องทุกข์อย่างเป็นทางการต่อตำรวจ อัยการพิจารณาคดีนี้เป็นความผิดเล็กน้อยจึงยื่นฟ้องแบบคำร้องสรุป พร้อมขอให้ปรับ 500,000 วอน แต่เนื่องจากผู้ต้องหาปฏิเสธและยืนยันในความบริสุทธิ์ จึงร้องขอให้มีการไต่สวนคดีอย่างเป็นทางการ
ศาลชั้นต้นมีคำตัดสินให้คนงานรายนี้มีความผิดจริงในข้อหาลักทรัพย์ และสั่งปรับ 50,000 วอน ซึ่งสูงกว่ามูลค่าขนมที่รับประทานเข้าไปถึงเกือบ 50 เท่า คนงานรายนี้ยื่นอุทธรณ์ทันที โดยการไต่สวนในชั้นอุทธรณ์ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว โดยทนายฝ่ายจำเลยโต้แย้งว่าขนมดังกล่าวเป็นสิ่งที่แบ่งปันกันตามธรรมเนียมไม่ถือเป็นการลักทรัพย์ ผู้พิพากษาคิม โด-ฮยอง ยังแสดงความเห็นในศาลว่า "รู้สึกรุนแรงเกินไปที่จะนำคดีมาถึงขั้นนี้" และจะพิจารณาว่าการลักทรัพย์เข้าข่ายทางกฎหมายหรือไม่
...
คดีนี้ได้จุดประกายความไม่พอใจในเกาหลีใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสหภาพแรงงานที่นำไปเปรียบเทียบกับ "ฌอง วัลฌอง" ตัวเอกในนวนิยายคลาสสิกของฝรั่งเศสเรื่อง "เล มิสเซราบล์ (Les Misérables)" ที่ถูกจำคุกเพียงเพราะขโมยขนมปังเพื่อเลี้ยงดูพี่น้อง
ผู้เชี่ยวชาญระบุกับสื่อท้องถิ่นว่า ค่าธรรมเนียมทางกฎหมายที่คนงานรายนี้ต้องจ่ายอาจสูงถึง 10,000 เท่า ของมูลค่าขนมที่เขากินไป ประเด็นนี้ยังถูกยกขึ้นมาถกเถียงอย่างร้อนแรงในการประชุมรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ชิน แด-กยอง หัวหน้าอัยการเขตช็อนจูคนใหม่ ได้ออกมาแถลงว่า จะทบทวนคดีนี้ "ภายใต้ขอบเขตของสามัญสำนึก" โดยยกกรณีคล้ายกันในปี 2020 ที่พนักงานร้านสะดวกซื้อถูกฟ้องข้อหาบริโภคขาหมู (จกบัล) มูลค่า 5,900 วอน แต่สุดท้ายศาลยกฟ้องในที่สุด
อัยการชินยังระบุว่า การดำเนินคดีเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สิน หากเหยื่อ (บริษัท) ยืนกรานให้ลงโทษและไม่มีการยอมความ แต่ก็ได้แย้มเป็นนัย ว่าอาจมีการใช้ดุลยพินิจเพื่อผ่อนปรนโทษในชั้นอุทธรณ์ โดยอาจถึงขั้นแนะนำไม่ให้มีการลงโทษก็เป็นได้
การไต่สวนนัดต่อไปมีกำหนดจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า โดยจะมีพยานฝ่ายจำเลย 2 คนเข้าให้การ คดีนี้ยังคงเป็นที่จับตาและกระตุ้นการถกเถียงเกี่ยวกับสัดส่วนของความยุติธรรมในระบบกฎหมายของเกาหลีใต้ ว่าการปฏิบัติต่อขนมมูลค่า 1,000 วอน เป็นอาชญากรรมร้ายแรงนั้น บ่อนทำลายความเชื่อมั่นของสาธารณชนในความเป็นธรรมของการบังคับใช้กฎหมายหรือไม่.
ที่มา AFP The Korea Times