กองทัพสหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีทางอากาศใส่เรือต้องสงสัยขนยาเสพติดในมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 วัน สังหารผู้ที่อยู่บนเรือไป 3 ราย นับเป็นการยกระดับปฏิบัติการต่อต้านการลักลอบค้ายาเสพติดทางทะเลของสหรัฐฯ โดยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เรียกว่า "ผู้ก่อการร้ายยาเสพติด" ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวโจมตีผู้นำโคลอมเบียอย่างดุเดือด และเตือนว่าอาจขยายการโจมตีไปยังเป้าหมายบนบก

นายพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า กองทัพสหรัฐฯ ได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อเรือต้องสงสัยว่าบรรทุกยาเสพติดในมหาสมุทรแปซิฟิก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย โดยไม่มีเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้รับอันตราย

การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่สหรัฐฯ ได้โจมตีเรืออีกลำในแปซิฟิก ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยเชื่อว่าเรือทั้งสองลำกำลังลำเลียงยาเสพติดไปตามเส้นทางขนส่งที่รู้จักกันดีในน่านน้ำสากล

นายเฮกเซธได้โพสต์ข้อความบน X ว่า "วันนี้ ตามคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ กระทรวงสงครามได้ดำเนินการโจมตีด้วยอาวุธร้ายแรงอีกครั้งต่อเรือที่ดำเนินการโดย 'องค์กรก่อการร้าย'" เขายืนยันว่าการโจมตีเหล่านี้จะดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง โดยย้ำว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่แค่ผู้ค้ายาเสพติด แต่เป็น "ผู้ก่อการร้ายยาเสพติดที่นำความตายและความเสียหายมาสู่เมืองของเรา"

การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 8 และ 9 ที่พุ่งเป้าไปที่เรือต้องสงสัยขนยาเสพติด นับตั้งแต่เดือนกันยายน แต่เป็น ครั้งแรกในมหาสมุทรแปซิฟิก เนื่องจากก่อนหน้านี้การโจมตีส่วนใหญ่อยู่ในทะเลแคริบเบียน โดยนับถึงปัจจุบัน มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีเรือยาเสพติดของสหรัฐฯ แล้วอย่างน้อย 37 ราย

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขามีอำนาจทางกฎหมายที่จะทิ้งระเบิดใส่เรือในน่านน้ำสากลต่อไปได้ แต่ระบุว่าหากเขาตัดสินใจที่จะขยายเป้าหมายการโจมตีไปยังบนบก เขาอาจจะต้องกลับไปปรึกษารัฐสภาสหรัฐฯ ก่อน โดยเขาย้ำว่ารัฐบาลของเขามีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะขยายปฏิบัติการต่อต้านยาเสพติดบนบก ซึ่งจะเป็นการยกระดับครั้งสำคัญ

...

นอกจากนี้ เหตุการณ์การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นระหว่างรัฐบาลทรัมป์กับรัฐบาลของประธานาธิบดีกุสตาโว เปโตร ผู้นำโคลอมเบีย ซึ่งทรัมป์ระบุว่าเขาเป็น "อันธพาลและคนเลว"

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวประณามนายเปโตรว่าเป็น "ผู้นำยาเสพติดผิดกฎหมาย" ที่กำลังสนับสนุนการผลิตยาเสพติดขนานใหญ่ทั่วโคลอมเบีย และประกาศว่าสหรัฐฯ จะยกเลิกการให้เงินอุดหนุนแก่โคลอมเบีย ซึ่งเคยเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของสหรัฐฯ ในละตินอเมริกา

ทั้งโคลอมเบียและเอกวาดอร์มีพื้นที่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกที่กว้างใหญ่ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเป็นเส้นทางหลักที่ใช้ในการลำเลียงโคเคนขึ้นเหนือไปยังสหรัฐฯ โดยสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ (DEA) ประเมินว่าโคเคนส่วนใหญ่ที่เข้าสู่สหรัฐฯ ถูกลำเลียงผ่านเส้นทางแปซิฟิกนี้.


ที่มา BBC