ประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี เผยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ศพ รวมถึงเด็ก 2 คน และบาดเจ็บ 21 คน จากการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธของรัสเซีย เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศล้มแผนการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ที่กรุงบูดาเปสต์
ประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เปิดเผยว่ามีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน ซึ่งรวมถึง เด็ก 2 คน และบาดเจ็บอีก 21 คน จากการระดมโจมตีอย่างหนักด้วยโดรนและขีปนาวุธของรัสเซียเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเขาระบุว่าเหตุการณ์นี้พิสูจน์ให้เห็นว่านานาชาติยังคงสร้างแรงกดดันต่อรัสเซียไม่เพียงพอ
การโจมตีครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศระงับแผนการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียที่กรุงบูดาเปสต์ โดยให้เหตุผลว่าไม่ต้องการให้เป็น "การประชุมที่เสียเปล่า" เนื่องจากเครมลินปฏิเสธข้อเรียกร้องให้หยุดยิงตามแนวหน้าในปัจจุบัน ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่มาจากทั้งทรัมป์และผู้นำยุโรป
กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เผชิญกับการโจมตีระลอกใหญ่เมื่อคืนที่ผ่านมา นับเป็นการโจมตีครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน ผู้เสียชีวิตในกรุงเคียฟ เป็นคู่สามีภรรยาวัย 60 ปีเศษ เสียชีวิตเมื่อโดรนพุ่งชนอาคารสูงในเมือง ส่วนพื้นที่โดยรอบภูมิภาคเคียฟ มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ซึ่งรวมถึง ผู้หญิงคนหนึ่ง, ทารกวัย 6 เดือน และเด็กหญิงวัย 12 ปี
ตลอดทั้งคืน กรุงเคียฟตกอยู่ภายใต้การเตือนภัยขีปนาวุธนำวิถี และมีเสียงระเบิดดังก้องไปทั่วเมือง จนกระทั่งรุ่งเช้า เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเข้าควบคุมเพลิงในอาคารที่พักอาศัยหลายแห่ง นอกจากนี้ ทั่วประเทศยูเครน เป้าหมายการโจมตีของรัสเซียยังคงพุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ทำให้หลายพื้นที่ต้องประกาศตัดไฟฉุกเฉิน
...
ขณะเดียวกัน กองทัพยูเครนรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันอังคาร ได้ใช้ขีปนาวุธร่อน "สตอร์ม ชาโดว์" ที่จัดหาโดยสหราชอาณาจักร โจมตีโรงงานเคมีของรัสเซีย ในภูมิภาคไบรอันสค์ ซึ่งติดชายแดนยูเครน
เจ้าหน้าที่ทหารระบุว่า การโจมตีครั้งนี้ "ประสบความสำเร็จ" และสามารถทะลวงระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย โดยโรงงานแห่งนี้ "ผลิตดินปืน วัตถุระเบิด และส่วนประกอบเชื้อเพลิงจรวดที่รัสเซียนำมาใช้ยิงถล่มดินแดนยูเครน"
ประธานาธิบดีเซเลนสกี ซึ่งมีกำหนดเยือนบริษัท ซาบ (Saab) ผู้ผลิตอาวุธของสวีเดนในวันนี้ กล่าวหลังกลับจากการเจรจากับทรัมป์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเขาไม่ประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวให้สหรัฐฯ จัดหาขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล "โทมาฮอว์ก" ว่า "ทันทีที่ประเด็นขีปนาวุธพิสัยไกลเริ่มห่างไกลจากยูเครน รัสเซียก็แทบจะลดความสนใจในการเจรจาทางการทูตลงโดยอัตโนมัติ".
ที่มา BBC