ข้อตกลงสำคัญของสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกหลายล้านล้านดอลลาร์ต่อปี เตรียมลงนามที่กรุงฮานอยสุดสัปดาห์นี้ แต่กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนักเคลื่อนไหวและบริษัทเทคโนโลยี ว่าอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือเฝ้าระวังหรือละเมิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น มากกว่าปราบปรามอาชญากรรมจริง
ตัวแทนจากหลายสิบประเทศเตรียมลงนามในข้อตกลงสำคัญว่าด้วยอาชญากรรมไซเบอร์ของสหประชาชาติ ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ในสุดสัปดาห์นี้ แม้จะมีความกังวลถึงความเสี่ยงต่อสิทธิมนุษยชน
ข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งจะมีผลบังคับใช้เมื่อได้รับการให้สัตยาบันจาก 40 ประเทศ ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยสหประชาชาติคาดหวังว่าจะช่วยให้การรับมือกับอาชญากรรมไซเบอร์รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ได้รับคำเตือนเรื่องการละเมิดสิทธิที่อาจเกิดขึ้นจากนักเคลื่อนไหว บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ รวมถึงข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ โดยระบุว่าถ้อยคำที่คลุมเครือเกี่ยวกับนิยามอาชญากรรม อาจอำนวยความสะดวกมากกว่าการต่อสู้กับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายเสียเอง
Cybersecurity Tech Accord ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรที่รวมถึง เมตา และ ไมโครซอฟต์ ได้เรียกข้อตกลงนี้ว่า "สนธิสัญญาสอดแนม" ที่จะเอื้อให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวระหว่างรัฐบาล และเสี่ยงที่จะทำให้ "อาชญากรสามารถก่ออาชญากรรมไซเบอร์ได้ง่ายขึ้น ไม่ใช่ยากขึ้น"
ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติยังเตือนระหว่างการเจรจาว่า "กฎหมายที่มีคำจำกัดความอาชญากรรมไซเบอร์กว้างเกินไป มักถูกนำมาใช้เพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกอย่างไม่เหมาะสม"
นอกจากนั้น การเลือกเวียดนามเป็นเจ้าภาพได้ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์ เนื่องจากประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยรายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อเดือนสิงหาคมระบุถึง "ประเด็นสำคัญด้านสิทธิมนุษยชน" ในเวียดนาม รวมถึงการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกทางออนไลน์
...
กลุ่มฮิวแมน ไรต์ วอตช์ รายงานว่า ปีนี้มีผู้ถูกจับกุมในเวียดนามอย่างน้อย 40 คน ในข้อหาก่ออาชญากรรม ซึ่งรวมถึงการโพสต์ข้อความต่อต้านรัฐบาลทางออนไลน์
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เวียดนามกล่าวว่า การเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ในเวทีระหว่างประเทศ และเห็นว่าข้อตกลงนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างการป้องกันทางไซเบอร์ของประเทศ
สหประชาชาติระบุว่า ข้อตกลงฉบับนี้มีเป้าหมายครอบคลุมอาชญากรรมหลากหลาย ตั้งแต่การฟิชชิง, มัลแวร์เรียกค่าไถ่ ไปจนถึงการค้ามนุษย์ออนไลน์ และการกล่าวถ้อยคำแสดงความเกลียดชัง โดยอ้างอิงประมาณการว่าอาชญากรรมไซเบอร์ทำให้เศรษฐกิจโลกต้องสูญเสียเงินหลายล้านล้านดอลลาร์ในแต่ละปี
สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ซึ่งเป็นผู้นำการเจรจา ได้กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวมีบทบัญญัติเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชน และเปิดโอกาสให้รัฐสามารถปฏิเสธคำร้องขอความร่วมมือที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศได้
ทั้งนี้ นายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ มีกำหนดการเข้าร่วมพิธีลงนามในวันที่ 25 ต.ค. นี้.
ที่มา Reuters