ทำเนียบขาวสหรัฐฯ ยืนยันว่า โดนัลด์ ทรัมป์ กับ วลาดิเมียร์ ปูติน ไม่มีแผนจะพบกันในเร็วๆ นี้ ไม่กี่วันหลังจากนายทรัมป์เพิ่งบอกว่า จะพบกับผู้นำรัสเซียที่เมืองหลวงฮังการีภายใน 2 สัปดาห์

เมื่อวันอังคารที่ 21 ต.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวสหรัฐฯ เปิดเผยว่า โดนัลด์ ทรัมป์ กับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ไม่มีแผนที่จะพบปะกันในอนาคตอันใกล้นี้ แม้ว่าเมื่อสัปดาห์ก่อน นายทรัมป์เพิ่งจะบอกว่า เขากับผู้นำรัสเซียจะพบปะพูดคุยกันที่กรุงบูดาเปสต์ ของฮังการีภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อหารือเรื่องสงครามในยูเครน

นอกจากนั้น ตามกำหนดการเดิม การประชุมนำร่องระหว่างนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ กับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีฝ่ายรัสเซีย จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ แต่ทำเนียบขาวระบุว่า ทั้งสองมีการโทรศัพท์พูดคุยกันอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว การประชุมแบบพบหน้าจึงไม่จำเป็นอีกต่อไป

ทำเนียบขาวไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่า เหตุใดการพบปะพูดคุยดังกล่าวจึงถูกระงับ

อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างสำคัญระหว่างข้อเสนอของสหรัฐฯ และเงื่อนไขเบื้องต้นของรัสเซียสำหรับการเจรจาสันติภาพกลับชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ในสัปดาห์นี้ และนั่นอาจเป็นสิ่งที่ทำลายโอกาสในการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีทั้งสองไป

นายทรัมป์หารือเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดที่กรุงบูดาเปสต์ทางโทรศัพท์กับนายปูตินเมื่อวันที่ 16 ต.ค. หนึ่งวันก่อนที่จะพบกับประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนที่ทำเนียบขาว

ข่าวบางกระแสระบุว่า การเจรจาระหว่างเขากับนายเซเลนสกีเป็น "การโต้เถียงด้วยเสียงดัง" โดยแหล่งข่าวชี้ว่า นายทรัมป์พยายามผลักดันให้นายเซเลนสกียอมสละพื้นที่ขนาดใหญ่ในภูมิภาคทางตะวันออกของแคว้นโดเนตสก์กับแคว้นลูฮานสก์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ภูมิภาคดอนบาส เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงกับรัสเซีย

...

แต่นายเซเลนสกียืนยันมาตลอดว่า ยูเครนไม่สามารถยกพื้นที่บางส่วนของดอนบาสที่พวกเขายังคงควบคุมอยู่ให้กับรัสเซียได้ เนื่องจากรัสเซียอาจใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นฐานตั้งต้นสำหรับการโจมตีเพิ่มเติมในภายหลัง

ต่อมาในวันจันทร์ (20 ต.ค.) นายทรัมป์ได้ยอมรับข้อเสนอหยุดยิงที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเคียฟและผู้นำยุโรป ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อระงับการต่อสู้ให้หยุดอยู่ที่แนวรบปัจจุบัน แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่รัสเซียต่อต้านมาตลอด

นายดีมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลเครมลินของรัสเซียกล่าวว่า แนวคิดดังกล่าวถูกเสนอต่อรัสเซียซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่จุดยืนของรัสเซียนั้นไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือการให้ยูเครนถอนทหารออกจากพื้นที่ทางตะวันออกที่ยังคงมีการต่อสู้อยู่ทั้งหมด

ด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ กล่าวในวันอังคารว่า รัสเซียสนใจเพียง "สันติภาพที่ยั่งยืนในระยะยาว" เท่านั้น โดยสื่อความหมายว่า การระงับแนวรบเอาไว้ในระดับปัจจุบันจะเป็นเพียงการหยุดยิงชั่วคราวเท่านั้น

นายลาฟรอฟกล่าวอีกว่า "สาเหตุที่แท้จริงของความขัดแย้ง จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข” โดยนี่เป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องสูงสุดของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการรับรองอำนาจอธิปไตยเต็มรูปแบบของรัสเซียเหนือภูมิภาคดอนบาส และการปลอดอาวุธยูเครน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลเคียฟและพันธมิตรยุโรปไม่สามารถยอมรับได้

ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร ผู้นำยุโรปได้ออกแถลงการณ์ร่วมกับนายเซเลนสกี โดยระบุว่า การเจรจาใด ๆ ที่จะยุติสงครามในยูเครนควรเริ่มต้นด้วยการระงับแนวรบเอาไว้ในพื้นที่ปัจจุบัน และกล่าวหารัสเซียว่า "ไม่จริงจัง" กับการสร้างสันติภาพ


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : bbc