(ภาพจาก Vera Kravtsova / Daily Mail)

นางแบบสาวชาวเบลารุส ถูกสแกมเมอร์หลอกมาไทย ก่อนถูกลักพาตัวไปเมียนมา พร้อมบังคับให้ทำงานกับแก๊งหลอกลวงออนไลน์ สุดท้ายถูกฆาตกรรมแล้วชิงอวัยวะไปขาย คนร้ายไม่วายเรียกค่าไถ่ศพ

สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักรวมถึง เดลีเมล รายงานว่า น.ส.เวรา คราฟต์โชวา นางแบบและนักร้องสาวชาวเบลารุสวัย 26 ปี ถูกฆาตกรรมและชิงอวัยวะ หลังจากเธอตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงออนไลน์ และถูกลักพาตัวจากประเทศไทยไปยังศูนย์สแกมเมอร์ของแก๊งอาชญากรรมในประเทศเมียนมา

น.ส.คราฟต์โซวา เดินทางมายังกรุงเทพมหานคร ของประเทศไทย เมื่อ 20 ก.ย. เพื่อสัมภาษณ์งานหลังจากได้รับข้อความเสนองานถ่ายแบบแบบพาร์ทไทม์

แต่ข่าวระบุว่า ทันทีที่เธอเดินทางมาถึงประเทศไทย น.ส.คราต์โซวาก็ถูกลักพาตัวไปโดยแก๊งอาชญากรรมท้องถิ่น และถูกพาไปยังชายแดนที่ติดกับประเทศเมียนมา พร้อมกับถูกยึดหนังสือเดินทางและโทรศัพท์มือถือ ถูกทำร้ายร่างกายและถูกข่มขู่ให้ทำงานเป็นส่วนหนึ่งในปฏิบัติการ “โรแมนซ์สแกม” (หลอกให้รักแล้วตบทรัพย์) ทางออนไลน์

ข่าวระบุอีกว่า สถานที่ที่ น.ส.คราฟต์โซวาถูกพาตัวไปนั้น เป็นพื้นที่ไร้กฎหมายที่เรียกว่า “แคมป์” (camp) ตั้งอยู่ทางเหนือของเมียนมา เป็นศูนย์ปฏิบัติการอาชญากรรมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่บริหารร่วมกันโดย แก๊งชาวจีนกับกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่น

ผู้คนที่ถูกพาไปที่นั่นจะถูกควบคุมตัวและถูกบังคับให้มีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมออนไลน์ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยหากไม่ทำตามที่สั่งหรือทำกำไรไม่ได้ตามเป้าหมาย พวกเขาจะถูกทำร้ายร่างกาย, ถูกทรมาน หรือถูกขู่บังคับให้ขายบริการทางเพศ และชิงอวัยวะไปขาย

ข่าวระบุว่า น.ส.คราฟต์โซวาทำกำไรไม่ได้ตามเป้าหมาย แก๊งอาชญากรจึงตัดการสืบสวนกับภายนอกของเธอทั้งหมด ไม่นานจากนั้น แก๊งก็ติดต่อไปยังครอบครัวของ น.ส.คราฟต์โซวา และอ้างว่า เธอเสียชีวิตแล้ว พร้อมเรียกร้องเงินจำนวน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16 ล้านบาท) เพื่อแลกกับการส่งร่างกลับคืน

...

เมื่อครอบครัวคราฟต์โซวาไม่ทำตาม แก๊งอาชญากรจึงส่งข้อความเพิ่มโดยระบุว่า ร่างของคราฟต์โซวาถูกฌาปนกิจแล้ว และบอกว่าไม่จำเป็นต้องตามหาเธออีก

ครอบครัวคราฟต์โซวายังได้รับข้อความจากบุคคลปริศนาอ้างว่า คราฟต์โซวาถูกขายให้กับแก๊งค้าอวัยวะในช่วงต้นเดือนตุลาคม และถูกนำอวัยวะออกไป ก่อนจะถูกสังหารและร่างถูกฌาปนกิจ

กระทรวงการต่างประเทศของเบลารุสยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง และกำลังให้ความช่วยเหลือครอบครัวคราฟต์โซวาผ่านช่องทางทางการทูต และมีรายงานด้วยว่า มารดาของคราฟต์โซวาพยายามเจรจากับแก๊งอาชญากร ซึ่งตกลงจะคืนอัฐิลูกสาวของเธอให้โดยไม่เรียกเงินค่าไถ่ โดยเธอวางแผนจะเดินทางไปเมียนมาเพื่อจัดการเรื่องอัฐิ

ทั้งนี้ รายงานของสหประชาชาติในปี 2566 ประเมินว่า มีเหยื่อการค้ามนุษย์ประมาณ 120,000 คนถูกควบคุมตัวอยู่ในเมียนมา โดยส่วนใหญ่มาจากเวียดนาม อินเดีย ศรีลังกา และมีบางส่วนมาจากรัสเซียและประเทศในยุโรปตะวันออก ซึ่งถูกบังคับให้ทำงานในศูนย์หลอกลวงในฐานะ “ทาสยุคใหม่” (modern slave)


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : chosun , the standard.hk