สส.เกาหลีใต้เผย มีชาวเกาหลีที่เดินทางไปกัมพูชาแล้วไม่กลับประเทศปีละหลายพันคน ทำให้เกิดคำถามว่า อาจมีพลเรือนเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชามากกว่าที่คิด

นาย พัค ชาน-แด สส.จากพรรคประชาธิปไตย พรรครัฐบาลของเกาหลีใต้ เปิดเผยในวันจันทร์ที่ 20 ต.ค. 2568 ว่า ชาวเกาหลีใต้จำนวนหลายพันคนที่เดินทางไปกัมพูชาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่ได้เดินทางกลับประเทศ บ่งชี้ว่า มีพลเมืองของพวกเขาทำงานในศูนย์หลอกลวงในชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้มากกว่าที่เคยเชื่อกัน

ข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ที่ยื่นให้แก่ สส.พัคระบุว่า ส่วนต่างของจำนวนชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางไปกัมพูชาและจำนวนผู้ที่กลับจากกัมพูชาอยู่ที่ 3,209 คนในปี 2565, 2,662 คนในปี 2566 และ 3,248 คนในปี 2567 เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปี 2564 ที่มีส่วนต่างเพียง 113 คนเท่านั้น

ชาวเกาหลีจำนวนมากที่ไม่ได้เดินทางกลับประเทศนี้ ทำให้เกิดคำถามว่าจำนวนพลเมืองที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการหลอกลวงซึ่งมีฐานอยู่ในกัมพูชา อาจสูงกว่าตัวเลขประมาณการของรัฐบาลซึ่งระบุไว้ประมาณ 1,000 คน หรือไม่

ขณะที่ตัวเลขของปี 2568 นี้ นับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนสิงหาคม มีชาวเกาหลีใต้เดินทางไปกัมพูชา 67,609 คน แต่เดินทางกลับมา 66,745 คน ทำให้มีส่วนต่างอยู่ที่ 864 คน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของกัมพูชาชี้ว่า ในปี 2567 มีชาวเกาหลีใต้เดินทางเข้าประเทศ 192,305 คน ขณะที่ข้อมูลฝั่งเกาหลีใต้ระบุว่า มีพลเมืองเดินทางออกจากประเทศไปกัมพูชาในปีเดียวกันนั้นจำนวน 100,820 คนเท่านั้น

สำนักข่าว ยอนฮัป รายงาน อ้างการเปิดเผยของผู้ที่รู้จักพนักงานในเครือข่ายอาชญากรรมแห่งหนึ่งในกัมพูชา ว่า มีชาวเกาหลีใต้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการหลอกลวงในประเทศนี้ อย่างน้อย 2,000 ถึง 3,000 คน

...

"ไม่ได้มีแค่คนที่เดินทางออกไปโดยเครื่องบินเท่านั้น แต่ยังมีคนที่ลักลอบเข้ากัมพูชาโดยผ่านประเทศจีนด้วย" แหล่งข่าวระบุ

แหล่งข่าวอีกคนที่อ้างว่าเคยทำงานในศูนย์อาชญากรรม อ้างว่ามีชาวเกาหลีอยู่ในศูนย์ดังกล่าวประมาณ 50 คน โดยบางคนหาเงินได้แล้วก็ย้ายไปตั้งบริษัทใหม่ในภูมิภาคอื่น

ด้านนายพัค กล่าวว่า มีแนวโน้มว่าจะมีเหยื่อชาวเกาหลีจากอาชญากรรมในกัมพูชาอีกมาก พร้อมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบข้อมูลของผู้ที่ไม่เดินทางกลับประเทศ

"รัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสอบข้อมูลของผู้ที่ไม่เดินทางกลับประเทศซ้ำ โดยการเปรียบเทียบประวัติการเข้าและออกของแต่ละบุคคลกับบันทึกของกงสุลและตำรวจ" นายพัคกล่าว


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : koreatimes