รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดในปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา โดยสามารถช่วยเหลือพลเมืองกลับมาได้เพิ่มอีก 2 ราย และจับกุมผู้ต้องสงสัยชาวเกาหลีใต้ได้อีกประมาณ 10 คน พร้อมเตรียมเสริมกำลังเจ้าหน้าที่กงสุล และสร้าง "ระบบเตือนภัยล่วงหน้า" เพื่อให้ความช่วยเหลือพลเมืองในกัมพูชาได้อย่างรวดเร็ว

นายโช ฮยอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือพลเมืองเกาหลีใต้ได้เพิ่มอีก 2 คน ในปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งหลอกลวงออนไลน์ในประเทศกัมพูชา และมีการจับกุมพลเมืองเกาหลีใต้ที่ต้องสงสัย ในความผิดดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10 คน

การเปิดเผยตัวเลขล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากที่พลเมืองเกาหลีใต้กว่า 60 คน ที่เชื่อมโยงกับอาชญากรรมนี้ถูกส่งตัวกลับประเทศไปก่อนหน้านี้ โดยเกาหลีใต้กำลังยกระดับความพยายามในการจัดการกับอาชญากรรมองค์กรขนาดใหญ่ที่พุ่งเป้ามาที่พลเมืองเกาหลีใต้ หลังจากการเสียชีวิตของนักศึกษาเกาหลีใต้ที่ถูกกล่าวหาว่าถูกทรมานโดยเครือข่ายหลอกลวง ทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างกว้างขวาง

นายโช กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางการกัมพูชาได้จับกุมชาวเกาหลีใต้ประมาณ 10 คน ที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมนี้ ระหว่างการกวาดล้างเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ส่วนพลเมืองเกาหลีใต้อีก 2 คนที่เชื่อว่าเป็นเหยื่อของอาชญากรรมดังกล่าวได้รับการช่วยเหลือในวันเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดมีกำหนดจะส่งตัวกลับประเทศภายในสัปดาห์นี้

นายโชกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศมีแผนจะจ้างบุคลากรด้านกงสุลเพิ่มอีก 40 คน เพื่อรับมือกับเหตุการณ์การหลอกลวงออนไลน์ในกัมพูชาให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเตรียมส่งเจ้าหน้าที่กงสุลจากคณะผู้แทนทางการทูตเกาหลีใต้ในประเทศเพื่อนบ้านเข้าปฏิบัติหน้าที่แบบหมุนเวียนเพื่อรับมือกับปริมาณงานที่เพิ่มสูงขึ้น

...

พร้อมกันนี้ กระทรวงฯ ยังมีแผนจะเปิดตัว "ระบบเตือนภัยล่วงหน้า" สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้พลเมืองเกาหลีใต้สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือจากสถานกงสุลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยระบบนี้จะมุ่งเน้นเป็นพิเศษที่ประเด็นปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ในภูมิภาคนี้

ส่วนความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) ที่เกาหลีใต้ให้แก่กัมพูชา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า วิกฤตการหลอกลวงออนไลน์ในครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการ ODA ที่กำลังดำเนินอยู่

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า "การเชื่อมโยงเหตุการณ์นี้เข้ากับ ODA จะไม่สอดคล้องกับจุดยืนของประเทศเรา และอาจดูเหมือนเรากำลังใช้ ODA เป็นเครื่องมือต่อรอง ซึ่งเราจะไม่ทำเช่นนั้น" อย่างไรก็ตาม อาจมีการพิจารณาใช้ ODA เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านความมั่นคงสาธารณะของกัมพูชา เช่น การสนับสนุนตำรวจท้องถิ่น เนื่องจากรัฐบาลกัมพูชาตระหนักถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเพราะกังวลว่าการเพิกเฉยจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ.


ที่มา Yonhap