สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ชะลอตัวลงเหลือ 4.8% ในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้ จนถึงสิ้นเดือนกันยายน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2024 ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่อ่อนแอที่สุดในรอบปี ท่ามกลางปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดเยื้อ และความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ ที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้งหลังจีนสั่งควบคุมการส่งออกแร่หายาก ซึ่งอาจส่งผลต่อการกำหนดแผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปีฉบับใหม่ของผู้นำจีนในสัปดาห์นี้
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยเมื่อวันนี้ (20 ต.ค.) ว่า เศรษฐกิจจีนเติบโต 4.8% ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่อ่อนแอที่สุดในรอบหนึ่งปี และลดลงจาก 5.2% ในไตรมาสก่อนหน้า
การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนครั้งนี้มีปัจจัยหลักมาจากการปะทุของความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ โดยเฉพาะหลังจีนประกาศควบคุมการส่งออกแร่หายาก ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญสำหรับการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก ทำให้การสงบศึกทางการค้าที่เปราะบางระหว่างสองประเทศสั่นคลอน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตอบโต้การควบคุมแร่หายากของจีนทันที โดยขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 100% ด้านนายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะพบหารือกับเจ้าหน้าที่จีนในสัปดาห์นี้ที่มาเลเซีย เพื่อพยายามบรรเทาความตึงเครียด และเตรียมจัดการประชุมระหว่างทรัมป์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
อีกปัจจัยสำคัญคือ วิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์ ของจีนยังคงดำเนินต่อไป โดยการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ลดลงถึง 13.9% ในช่วง 9 เดือนจนถึงเดือนกันยายน ภาคส่วนนี้ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณหนึ่งในสามของเศรษฐกิจจีน กำลังเผชิญกับการตกต่ำอย่างรุนแรง ทั้งราคาบ้านที่ลดลง และโครงการที่พักอาศัยที่ถูกทิ้งร้าง
...
แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนระบุว่า เศรษฐกิจยังแสดงให้เห็นถึง "ความยืดหยุ่นและมีชีวิตชีวา" โดยได้รับแรงหนุนจากภาคเทคโนโลยีและบริการทางธุรกิจ โดยการส่งออกของจีนเพิ่มขึ้น 8.4% ในเดือนกันยายน ซึ่งช่วยชดเชย "การใช้จ่ายภายในประเทศที่ซบเซา" ตามความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์อาวุโส
รัฐบาลจีนได้พยายามกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศด้วยมาตรการต่างๆ เช่น เงินอุดหนุน ค่าจ้างที่สูงขึ้น และส่วนลด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ "ประมาณ 5%" ในปีนี้
ตัวเลขการเติบโตล่าสุดนี้จะถูกนำไปใช้เป็นข้อมูลหลักในการประชุมผู้นำระดับสูงของจีนในสัปดาห์นี้ เพื่อ กำหนดแผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปีฉบับใหม่ ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าจีนอาจต้องเพิ่มมาตรการสนับสนุนทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้.
ที่มา BBC