ตร.จีนทลายขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ “สวี ฟาฉี” หัวหน้าแก๊งโกกั้งในเมียนมา หลอกโกงเงินเหยื่อกว่า 1.1 พันล้านหยวน หรือราว 5,000 ล้านบาท หลังเมียนมาส่งตัวผู้ต้องหาให้จีนดำเนินคดี
วันที่ 17 ตุลาคม 2568 กระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีนแถลง ทลายขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ของ "สวี ฟาฉี" หรือ "สวี เหล่าฟา" หัวหน้าแก๊งโกกั้ง ทางตอนเหนือของเมียนมา โกงเงินเหยื่อกว่า 1.1 พันล้านหยวน หรือราว 5,000 ล้านบาท หลังเมียนมาส่งตัวผู้ต้องหาให้จีนดำเนินคดี
โดยขบวนการนี้ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุฉ้อโกงทางโทรศัพท์และออนไลน์จำนวนกว่า 3,400 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 1.1 พันล้านหยวน หรือราว 5,000 ล้านบาท โดยมีพฤติการณ์ร่วมกันฉ้อโกง ทำร้ายร่างกาย หน่วงเหนี่ยวกักขัง และกรรโชกทรัพย์
คดีนี้อยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างจีน-เมียนมา โดยตำรวจนครฉงชิ่งได้รับมอบหมายให้สอบสวนตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 ภายหลังการสืบสวนเข้มข้นหลายเดือน เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานจำนวนมาก ก่อนออกหมายจับสาธารณะในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 ตำรวจเมียนมาสามารถจับกุมตัวสวี ฟาฉี ได้ และส่งมอบให้ทางการจีนภายใต้กลไกความร่วมมือด้านกฎหมายและความมั่นคงระหว่างสองประเทศ
รายงานระบุว่า ระหว่างการสืบสวน เจ้าหน้าที่จีนกว่า 300 นายจากนครฉงชิ่งได้ลงพื้นที่กว่า 18 มณฑลและนคร รวมถึงฝูเจี้ยน กุ้ยโจว กานซู่ และยูนนาน เพื่อสอบพยานและตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติม โดยทำงานร่วมกับทางการเมียนมาในพื้นที่ที่ยังมีความขัดแย้งทางอาวุธ
ระหว่างวันที่ 17–19 กันยายน พ.ศ. 2568 ศาลประชาชนชั้นต้นลำดับที่ 5 นครฉงชิ่ง ได้เปิดการไต่สวนคดีของซสวี ฟาฉี และพวกต่อสาธารณชน ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า ตั้งแต่ปี 2562 สวี ฟาฉี ได้ก่อตั้งขบวนการอาชญากรรมในพื้นที่โกกั้ง โดยใช้เครือข่ายอิทธิพลท้องถิ่นร่วมมือกับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงทางโทรศัพท์และออนไลน์ สร้างและเช่าพื้นที่โกง 14 แห่ง เช่น โรงแรมเถียนจื่อ เขตอุตสาหกรรมตงเฉิง เป่าป่าวจ้าย และอาคารหมายเลข 311 เพื่อใช้เป็นฐานหลอกลวงคนจีน
...
นอกจากนี้ เขายังควบคุมกองกำลังติดอาวุธกว่า 400 คน เพื่อคุ้มกันพื้นที่และบังคับผู้ทำงานในขบวนการ หากผู้ใดไม่ทำตามคำสั่งหรือไม่บรรลุเป้าหมาย จะถูกทำร้าย ทรมาน หรือสังหารอย่างโหดเหี้ยม ขณะที่เจ้าหน้าที่จีนพบหลักฐานคดีฆาตกรรม 1 คดี บาดเจ็บสาหัส 1 คดี และคดีหน่วงเหนี่ยวกักขังและกรรโชกทรัพย์อีกหลายสิบคดีในพื้นที่นี้ ขณะนี้ศาลอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาโทษผู้ต้องหาและสมาชิกแก๊งทั้งหมด.
ที่มา Global Times