แบ็ก เซฮี  นักเขียนชาวเกาหลีใต้ผู้สร้างปรากฏการณ์ด้วยบันทึกความทรงจำขายดีระดับโลกเรื่อง "I Want to Die but I Want to Eat Tteokbokki" (อยากตายแต่ก็อยากกินต็อกบกกี) ได้เสียชีวิตลงแล้วในวัย 35 ปี แม้รายละเอียดการเสียชีวิตยังไม่ชัดเจน แต่ครอบครัวเผยว่าเธอได้บริจาคอวัยวะเพื่อต่อชีวิตให้ผู้คนถึง 5 ราย ตามความปรารถนาที่จะ "แบ่งปันหัวใจและสร้างแรงบันดาลใจแห่งความหวัง" ผ่านงานเขียนของเธอ

หนังสือเล่มนี้ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2018 ในภาษาเกาหลี เป็นการรวบรวมบทสนทนาระหว่างเธอกับจิตแพทย์เกี่ยวกับการรักษาภาวะซึมเศร้า ซึ่งเนื้อหาด้านสุขภาพจิตของเธอได้สร้างปรากฏการณ์และเข้าถึงใจผู้อ่านทั่วโลก ก่อนจะได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษในปี 2022 และมียอดขายรวมทั่วโลกแล้วกว่า หนึ่งล้านเล่ม รวมถึงถูกแปลไปแล้วใน 25 ประเทศ

สำนักงานบริจาคอวัยวะแห่งเกาหลี  ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ว่า แบ็ก เซฮี ได้บริจาคอวัยวะของเธอ ได้แก่ หัวใจ ปอด ตับ และไต ซึ่งช่วยต่อชีวิตให้กับผู้คนได้ถึง 5 ราย ในแถลงการณ์ได้อ้างอิงคำพูดของน้องสาวของเธอว่า แบ็ก เซฮี ต้องการ "แบ่งปันหัวใจของเธอให้กับผู้อื่นผ่านผลงาน และสร้างแรงบันดาลใจแห่งความหวัง"

"I Want to Die but I Want to Eat Tteokbokki" ได้รับการยกย่องอย่างสูงในฐานะงานที่ช่วยให้การพูดคุยเกี่ยวกับสุขภาพจิตเป็นเรื่องปกติ และนำเสนอความขัดแย้งภายในจิตใจได้อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างความคิดที่สิ้นหวังกับความซาบซึ้งในความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ

ประโยคที่โด่งดังที่สุดของหนังสือเล่มนี้คือ "หัวใจของมนุษย์ ต่อให้ต้องการที่จะตาย ก็มักจะอยากกินต็อกบกกีในเวลาเดียวกันด้วยเช่นกัน"

แบ็ก เซฮี เกิดในปี 1990 จบการศึกษาด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ และเคยทำงานในสำนักพิมพ์เป็นเวลา 5 ปี เธอได้รับการรักษาภาวะดีสไทเมีย หรือภาวะซึมเศร้าแบบเรื้อรังระดับอ่อน ซึ่งเป็นพื้นฐานในการเขียนผลงานขายดีของเธอตลอดระยะเวลาหนึ่งทศวรรษ

...

ผลงานภาคต่อของเธอคือ "I Want to Die but I Still Want to Eat Tteokbokki" ตีพิมพ์เป็นภาษาเกาหลีในปี 2019 และฉบับแปลภาษาอังกฤษเผยแพร่ในปี 2024.


ที่มา BBC