รัฐบาลเกาหลีใต้เปิดเผยว่า มีชาวเกาหลีใต้ราว 1,000 คนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสแกมเมอร์ หรือการฉ้อโกงออนไลน์ ในกัมพูชา ซึ่งมีแรงงานจากหลายประเทศรวมกันกว่า 200,000 คน พร้อมประกาศตั้งทีมตอบสนองพิเศษร่วมกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อสืบสวนและปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ

นาย วี ซอง-รัก ผู้อำนวยการสำนักความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ แถลงเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ว่า รัฐบาลได้รับรายงานว่ามีชาวเกาหลีใต้จำนวนมากทำงานในธุรกิจหลอกลวงออนไลน์ หรือ สแกมเมอร์ ในกัมพูชา ซึ่งมีเป้าหมายหลอกลวงผู้ใช้จากทั่วโลก รวมถึงในเกาหลีใต้เอง โดยหน่วยงานภายในประเทศประเมินว่ามีชาวเกาหลีใต้ที่เกี่ยวข้อง "ราว 1,000 คน"

ข้อมูลของทางการระบุว่า ระหว่างเดือนมกราคมถึงสิงหาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียหายหรือญาติของชาวเกาหลีใต้กว่า 330 คน แจ้งเหตุว่าถูกหลอกลวงหรือกักขังในกัมพูชา โดยกว่า 80% ของกรณีได้รับการแก้ไขแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังคงมีคดีที่อยู่ระหว่างตรวจสอบราว 79 ราย

สถานการณ์ในกัมพูชาทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2024 โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุนักศึกษามหาวิทยาลัยชาวเกาหลีถูกทรมานจนเสียชีวิตในเดือนสิงหาคม ซึ่งจุดชนวนความไม่พอใจอย่างมากในประเทศ ทั้งนี้ การส่งศพกลับเกาหลีล่าช้า เนื่องจากเกาหลีใต้ร้องขอให้มีการชันสูตรร่วม กับทางการกัมพูชา ซึ่งเพิ่งได้รับการยินยอมเมื่อไม่นานมานี้

เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ดังกล่าว ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้สั่งการให้จัดตั้งคณะทำงานรัฐบาลร่วม ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงยุติธรรม โดยมี คิม จินอา รัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศคนที่สองเป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งจะเดินทางไปกรุงพนมเปญในค่ำวันนี้ (15 ต.ค.) เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชา

...

หนึ่งในภารกิจหลักคือการผลักดันให้จัดตั้ง คณะทำงานร่วมเกาหลี–กัมพูชา เพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ และเตรียมจัดตั้ง "Korean Desk" ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา เพื่อประสานงานกรณีชาวเกาหลีโดยเฉพาะ

รัฐบาลยังมีแผนให้ความช่วยเหลือด้าน การเสริมศักยภาพด้านความมั่นคงของกัมพูชา ผ่านโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนา (ODA) และเพิ่มเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตในพนมเปญ เพื่อดูแลพลเมืองเกาหลีใต้ที่ตกอยู่ในความเสี่ยง

วี ซอง-รัก กล่าวเพิ่มเติมว่า เกาหลีใต้จะเร่งผลักดันการส่งตัวชาวเกาหลีที่ถูกจับกุมกว่า 60 คนกลับประเทศเพื่อสอบสวนต่อ เนื่องจากบางรายอาจมีส่วนร่วมโดยสมัครใจในกิจกรรมสแกมเมอร์ ซึ่งหากพบว่ามีความผิด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ยังเตือนว่า มีกรณีซึ่งบางคนที่ได้รับความช่วยเหลือให้เดินทางกลับประเทศแล้ว แต่กลับเดินทางไปกัมพูชาอีกครั้งเพื่อทำงานในศูนย์สแกมเมอร์ โดยรัฐบาลเตรียมออกมาตรการ ป้องกันการกลับเข้าไปในอุตสาหกรรมหลอกลวงออนไลน์ ทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงประสานให้กัมพูชา ห้ามผู้ที่เคยถูกจับกุมกลับเข้าประเทศ

นอกจากนี้ รัฐบาลยังพิจารณายกระดับคำเตือนการเดินทางไปยังกัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีอาชญากรรมแพร่ระบาด เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนถูกชักจูงด้วย "ข้อเสนองานรายได้สูง" ซึ่งมักเป็นกับดักเข้าสู่เครือข่ายสแกมเมอร์

 นายวี กล่าวทิ้งท้ายว่า "สิ่งสำคัญที่สุดคือการช่วยเหลือพลเมืองของเราให้พ้นจากพื้นที่เสี่ยงโดยเร็ว และสร้างระบบความร่วมมือที่มั่นคงกับทางการกัมพูชา เพื่อยุติการหลอกลวงออนไลน์ที่กำลังสร้างความเสียหายร้ายแรงทั้งต่อผู้เสียหายและภาพลักษณ์ของประเทศ".


ที่มา YTN