สำนักข่าวยอนฮัป ของเกาหลีใต้รายงานว่า ผู้ที่เคยทำงานภายในพื้นที่อาชญากรรมในกัมพูชาเปิดเผยว่า ภายในแต่ละแหล่งอาชญากรรม มีการทรมานเหยื่ออย่างทารุณ ทั้งการถอนเล็บ ตัดนิ้ว โดยคาดว่าปัจจุบันมีพื้นที่ลักษณะนี้มากกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีการค้ามนุษย์ โดยการขายเหยื่อไปยังแก๊งอาชญากรรมอื่นในราคาที่ตกลงกัน
อาณาจักรอาชญากรรมในกัมพูชามีขนาดแตกต่างกันไป และเป็นแหล่งที่เกิดอาชญากรรมหลากหลายรูปแบบ เช่น โรแมนซ์สแกม (การหลอกให้หลงรัก), การหลอกขายหุ้นนอกตลาด, การหลอกลงทุนฟิวเจอร์สในต่างประเทศ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งมีข้อกล่าวอ้างว่ามีศูนย์อาชญากรรมเหล่านี้สูงถึง 400 แห่งในกัมพูชา
นาย A ผู้เกี่ยวข้องรายหนึ่ง อธิบายว่า เหตุที่แก๊งเหล่านี้ต้องการคนสัญชาติเกาหลี เนื่องจากนำไปใช้ในการฟอกเงิน จากรายได้อาชญากรรม หรือทำงานด้านเทเลมาร์เก็ตติ้ง, แชท, และบริการลูกค้า สำหรับการหลอกลวงเป้าหมายที่เป็นชาวเกาหลี
นาย A ยังเตือนว่า ไม่ใช่กัมพูชาทุกพื้นที่ที่เหมือนกัน โดยระบุว่าพื้นที่ชายแดนอย่างปอยเปต และ บาเวต นั้น อันตรายที่สุด และเป็นที่ที่คนส่วนใหญ่ถูกส่งไปเป็นที่สุดท้าย ต่างจากพนมเปญหรือสีหนุวิลล์
นาย B ชาวเกาหลีที่อาศัยอยู่ในกัมพูชา กล่าวเสริมว่า หากทำงานในพนมเปญหรือสีหนุวิลล์แล้วทำผลงานไม่ดีหรือติดหนี้ในคาสิโน ก็จะถูกขายต่อไปยังพื้นที่ชายแดนอย่างปอยเปตหรือบาเวต โดยมีคนจำนวนมากต้องเผชิญชะตากรรมเช่นนี้
นาย B ยืนยันว่า การที่เหยื่อถูกทำร้ายจนเสียชีวิตนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก โดยมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละหนึ่งคน เหยื่อไม่ได้มีเพียงชาวเกาหลีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชาวเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และจีนด้วย ผู้ที่ถูกซ้อมจนสุขภาพทรุดโทรมก็เสียชีวิต หรือหากทำงานไม่ได้ตามเป้าก็จะถูกทำร้าย บางกรณีถึงขั้นตัดนิ้วทั้งหมดหากบัญชีธนาคารที่นำมาขายถูกระงับ
...
ส่วนกรณีที่มีนักศึกษารายหนึ่งเสียชีวิตในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาในพื้นที่ เขาโบโก นาย B อธิบายว่า ที่แห่งนั้นมักเป็นที่ที่คนถูกส่งไปขายบัญชีธนาคาร และมักจะถูกกักขังและถูกบังคับให้ทำงานผิดกฎหมาย หรือแม้กระทั่งต้องจบชีวิตลงที่นั่น
นาย C ผู้ที่เคยถูกคุมขังในแก๊งอาชญากรรม เล่าว่า เขาเคยเห็นภาพถ่ายการทรมานและศพในกลุ่มแชทเทเลแกรมของผู้ดูแล ซึ่งพวกเขาภาคภูมิใจที่จะพูดถึงเรื่องนี้และนำภาพมาให้เขาดูพร้อมข่มขู่ว่า "ถ้าไม่เชื่อฟัง จะมีสภาพแบบนี้"
นอกจากนี้ ยังมีข้อกล่าวอ้างว่า เหยื่อที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตจะถูกนำไปเผาในเตาเผาของสถานที่นั้น แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อโต้แย้งว่าอาจเป็นข่าวลือที่เกินจริง โดยเตาเผาอาจใช้สำหรับเผาขยะเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม มีข้อกล่าวอ้างเพิ่มเติมที่น่าสะพรึงกลัวว่า หากเหยื่อไม่สามารถทำ "ผลงาน" ได้ตามเป้า ก็อาจถูกบังคับให้ "ขายอวัยวะ" นาย A อธิบายว่า หากเป็นหนี้และไม่มีผลงาน ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขายอวัยวะ โดยเริ่มจากดวงตา เนื่องจากกระจกตาผ่าตัดง่ายกว่าและมีราคาสูง
แต่ก็มีความเห็นแย้งว่า ปัจจุบันการค้าอวัยวะอาจไม่ได้เกิดขึ้นในกัมพูชาแล้ว โดยนาย B ชี้ว่า "ในสีหนุวิลล์มีโรงพยาบาลจีนจำนวนมาก ซึ่งในอดีตถูกใช้เพื่อผ่าตัดเอาอวัยวะ แต่ปัจจุบันน่าจะใช้วิธีบังคับให้ทำงานจนกว่าจะไม่สามารถใช้งานได้อีก แล้วค่อยส่งต่อไปยังพม่า ซึ่งคาดว่าจะเป็นสถานที่ที่มีการผ่าตัดเอาอวัยวะเกิดขึ้น"
ที่มา Yonhap