ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงเกาหลีใต้ประกาศเร่งด่วนให้ส่งตัวพลเมืองกลับจากกัมพูชา หลังพบคดีลวงไปทำงาน-กักขังทรมานเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ พร้อมเตรียมส่งเจ้าหน้าที่สืบสวนร่วมมือทางการกัมพูชา หลังเหตุสะเทือนขวัญนักศึกษาถูกฆ่าตายในเมืองกัมปอต


วันที่ 13 ตุลาคม 2568 สำนักประธานาธิบดีเกาหลีใต้เปิดเผยว่า นายวี ซอง แล็ก ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติได้กล่าวต่อที่ประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจภาครัฐ เรียกร้องให้เร่งอพยพพลเมืองเกาหลีใต้ที่อยู่ในกัมพูชากลับประเทศโดยเร็ว หลังเกิดเหตุหลอกลวงแรงงานและการกักขังอย่างผิดกฎหมายต่อชาวเกาหลีใต้หลายร้อยรายในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

โดยที่ประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจภาครัฐซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหลายหน่วยงานร่วมเข้าหารือ ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อวางมาตรการป้องกันและรับมือสถานการณ์

นาง คัง ยู-จอง โฆษกทำเนียบประธานาธิบดี แถลงว่า นายวีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการส่งตัวพลเมืองที่อยู่ในอันตรายกลับประเทศทันทีด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม  พร้อมย้ำว่าการดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดที่อยู่ระหว่างการควบคุมตัวยังต้องเป็นไปตามกฎหมาย นอกจากนี้รัฐบาลยังพิจารณาความเป็นไปได้ในการส่งเจ้าหน้าที่สืบสวนเดินทางไปกัมพูชา เพื่อประสานกับทางการท้องถิ่นในการตรวจสอบและช่วยเหลือผู้ที่รอการส่งกลับ

ก่อนหน้านี้ นาย โช ฮย็อน รัฐมนตรีต่างประเทศ เปิดเผยต่อสภาว่า เกาหลีใต้กำลังหารือกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อจัดส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องบินพิเศษไปรับผู้ที่ติดค้างกลับประเทศโดยเร็วที่สุด ขณะที่ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี อี แจ-มยอง มีคำสั่งให้กระทรวงต่างประเทศและหน่วยงานด้านความมั่นคงทุ่มเททุกมาตรการทางการทูตเพื่อคุ้มครองชีวิตและความปลอดภัยของพลเมืองเกาหลีใต้ในต่างแดน

...

ทั้งนี้ แรงกดดันต่อรัฐบาลเกาหลีใต้ทวีความรุนแรงขึ้น หลังเหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่นักศึกษามหาวิทยาลัยชาวเกาหลีใต้รายหนึ่งถูกพบเสียชีวิตในรถยนต์สีดำใกล้ภูเขาโบกอร์ เมืองกัมปอต โดยตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยชาวจีน 2 คนที่อยู่ในรถขณะเกิดเหตุ รายงานระบุว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ สถานทูตและสถานกงสุลเกาหลีใต้ในกัมพูชาได้รับแจ้งเหตุลักษณะเดียวกันถึง 330 กรณี ทั้งการหลอกไปทำงาน บังคับใช้แรงงาน และการกักขังหน่วงเหนี่ยว.