ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมาเตือนรัฐบาลรัสเซียอย่างเปิดเผยว่า สหรัฐฯ อาจพิจารณาจัดส่ง ขีปนาวุธพิสัยไกล "โทมาฮอว์ก" ให้แก่ยูเครน หากสงครามที่ดำเนินอยู่ไม่สามารถหาข้อยุติได้ในไม่ช้า ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเขาพร้อมที่จะเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน โดยใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่สำคัญ
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน ระหว่างเดินทางไปยังอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า "ผมอาจจะพูดว่า 'ดูสิ หากสงครามนี้ไม่ได้รับการสะสาง ผมจะส่งโทมาฮอว์กให้พวกเขา'" และเสริมว่า "โทมาฮอว์กเป็นอาวุธที่น่าทึ่ง เป็นอาวุธที่ใช้ในการโจมตีอย่างมาก และพูดตามตรง รัสเซียไม่ต้องการสิ่งนั้นเลย"
ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เขาได้หยิบยกประเด็นการส่งขีปนาวุธโทมาฮอว์กนี้ขึ้นมาหารือระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กับ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ในช่วงเช้าวันเดียวกัน โดยกล่าวว่า "พวกเขา (รัสเซีย) อยากให้มีโทมาฮอว์กมุ่งหน้าไปในทิศทางนั้นหรือไม่? ผมไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น" และระบุว่า "โทมาฮอว์กคือก้าวใหม่ของการรุกราน"
การส่งสัญญาณที่แข็งกร้าวของทรัมป์มีขึ้นหลังจากที่รัสเซียได้ทำการโจมตีเครือข่ายพลังงานของยูเครนอย่างหนักในช่วงข้ามคืน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนก่อนฤดูหนาวจะมาถึง ขณะเดียวกัน ทางการรัสเซียก็แสดง "ความกังวลอย่างยิ่ง" ต่อความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะจัดหาขีปนาวุธร่อนโทมาฮอว์กให้แก่ยูเครน โดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูตินเคยระบุว่า การที่สหรัฐฯ จัดหาขีปนาวุธพิสัยไกลให้ยูเครน จะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ
ในส่วนของผู้นำยูเครน นายเซเลนสกี ได้กล่าวถึงการพูดคุยครั้งล่าสุดกับทรัมป์ว่า "มีประสิทธิผลอย่างมาก" และทั้งสองฝ่ายได้หารือกันถึงการเสริมสร้าง "การป้องกันภัยทางอากาศ ความสามารถในการฟื้นตัว และศักยภาพพิสัยไกล" ของยูเครน รวมถึง "รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับภาคพลังงาน"
...
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้แสดงท่าทีที่แข็งกร้าวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ต่อประธานาธิบดีปูติน หลังจากที่ผู้นำรัสเซียปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในการเจรจาโดยตรงกับเซเลนสกีเพื่อบรรเทาความขัดแย้ง โดยเมื่อเดือนที่แล้ว ทรัมป์เคยประกาศว่า ขณะนี้เขาเชื่อว่ายูเครนสามารถทวงคืนดินแดนทั้งหมดที่เสียให้กับรัสเซียได้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากที่ก่อนหน้านี้เคยเรียกร้องให้ยูเครนยอมประนีประนอมเพื่อยุติสงคราม
ทั้งนี้ ขีปนาวุธโทมาฮอว์กจะทำให้อิสระในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ซึ่งเซเลนสกีระบุว่าเป็นความกดดันที่จำเป็นเพื่อให้รัสเซียเข้าร่วมเจรจาสันติภาพอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ยังคง ต่อต้านการเรียกร้อง ของเซเลนสกีในการจัดส่งขีปนาวุธดังกล่าว
ทรัมป์กล่าวสรุปถึงสถานการณ์สงครามว่า "ผมคิดว่า ปูตินจะดูดีมากหากเขาสามารถจัดการเรื่องนี้ได้" และ "มันจะไม่เป็นผลดีต่อเขา" หากสงครามยังคงยืดเยื้อต่อไป.
ที่มา AP