โจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เริ่มรับการฉายรังสีและฮอร์โมนบำบัด เพื่อรักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมากแล้ว หลังจากได้รับการวินิจฉัยเมื่อเดือนพฤษภาคม
เมื่อวันเสาร์ที่ 11 ต.ค. 2568 โฆษกของ โจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ วัย 82 ปี ระบุว่า อดีตผู้นำสหรัฐฯ รายนี้ เริ่มรับการฉายรังสีและฮอร์โมนบำบัด เพื่อรักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมากแล้ว ในขณะที่หลายฝ่ายกำลังจับตามองเรื่องสุขภาพของเขา
เมื่อเดือนพฤษภาคม สำนักงานของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศว่า นายไบเดนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากชนิดรุนแรงที่แพร่กระจายไปยังกระดูก หลังจากเขาเข้ารับการตรวจเนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะและพบก้อนเนื้อที่ต่อมลูกหมาก
“มะเร็งสัมผัสเราทุกคน” นายไบเดนระบุในโพสต์บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ในตอนนั้น “เหมือนกับพวกคุณหลายคน จิลกับผมได้เรียนรู้ว่าเราแข็งแกร่งที่สุดในสถานที่ที่พังทลาย ขอบคุณที่ดึงพวกเราขึ้นมาด้วยความรักและการสนับสนุน”
ทั้งนี้ เรื่องสุขภาพของนายไบเดนกลับมาเป็นที่จับตามองอีกครั้ง หลังจากหนังสือเล่มใหม่ของนายไบเดนให้รายละเอียดเกี่ยวกับสุขภาพที่ทรุดโทรมของเขา ในตอนที่เขากำลังรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเมื่อปีก่อน เพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองกับ โดนัลด์ ทรัมป์
ไบเดนประกาศถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนกรกฎาคม 2567 หลังจากการดีเบตกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งไบเดนแสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมอย่างสิ้นเชิง และเขาประกาศสนับสนุนนาง คามาลา แฮร์ริส ผู้เป็นรองประธานาธิบดีในขณะนั้น ลงชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ แทน แม้สุดท้ายเธอจะพ่ายแพ้ให้นายทรัมป์
อนึ่ง ข้อมูลของสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา ระบุว่า มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในหมู่ผู้ชาย และพบบ่อยเป็นพิเศษในผู้สูงอายุ โดยผู้ชายที่มีอายุเกิน 80 ปี ประมาณ 80% มีเซลล์มะเร็งอยู่ในต่อมลูกหมาก
...
สมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา ระบุด้วยว่า แม้ว่ามะเร็งต่อมลูกหมากจะมีโอกาสรักษาให้หายได้สูงหากตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่ก็เป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งอันดับสองในผู้ชาย
ฮอร์โมนบำบัดเป็นวิธีการรักษาที่พบบ่อย ซึ่งสามารถช่วยทำให้ก้อนเนื้อหดตัวลงและชะลอการเติบโตของมะเร็งได้ แต่ไม่ใช่การรักษาให้หายขาด
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cna