ตำรวจญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ที่ถูกค้นพบในเมืองชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อปี 2023 ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นของเด็กหญิง นัตสึเสะ ยามาเนะ วัย 6 ขวบ ซึ่งหายสาบสูญไปในเหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในจังหวัดอิวาเตะ เมื่อเดือนมีนาคม 2011
การค้นพบครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ผ่านมานานถึง 14 ปี โดยครอบครัวของเด็กหญิงนัตสึเสะ ยามาเนะ ได้ออกแถลงการณ์ว่า "พวกเราเลิกหวังไปนานแล้ว ว่าจะพบร่างของเธอ ดังนั้นเมื่อได้รับการแจ้ง พวกเราจึงรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง และรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก"
นี่นับเป็นกรณีแรกในรอบสองปีที่สามารถระบุตัวตนของผู้เสียชีวิตจากพื้นที่ภัยพิบัติในจังหวัดอิวาเตะ มิยางิ และฟุกุชิมะได้ โดยครั้งสุดท้ายคือในจังหวัดอิวาเตะ เมื่อเดือนสิงหาคม 2023
ตามรายงานของตำรวจ ระบุว่า บ้านของเด็กหญิงในเมืองยามาดะ ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่ง ถูกคลื่นสึนามิซัดเข้าใส่ ชิ้นส่วนที่พบคือเศษกระดูกขากรรไกร ซึ่งถูกพบในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ระหว่างที่บริษัทแห่งหนึ่งรับเหมากำลังดำเนินการทำความสะอาดชายหาดและทางเท้าในเมืองมินามิซานริคุ จังหวัดมิยางิ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านลงไปทางใต้ประมาณ 100 กิโลเมตร
ขณะที่กำลังคัดแยกสิ่งของที่เก็บรวบรวมจากงานทำความสะอาด พนักงานที่สำนักงานของบริษัทพบส่วนหนึ่งของกระดูกขากรรไกรและฟันหลายซี่เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2023 เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าชิ้นส่วนดังกล่าวเป็นของเด็กหญิง โดยผ่านการตรวจดีเอ็นเอ และการวิเคราะห์โปรตีนบนฟัน โดยได้รับความช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัยโทโฮคุ และยืนยันว่าจะมีการส่งมอบชิ้นส่วนดังกล่าวคืนให้กับครอบครัวของเธอในเร็วๆ นี้
...
ทั้งนี้ ตำรวจจังหวัดมิยางิเพิ่งสามารถระบุตัวตนของเหยื่อภัยพิบัติ 3/11 ได้เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนมีนาคม 2021 ขณะที่ยังมีร่างผู้เสียชีวิตที่ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้อีก 6 ราย อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ในจังหวัดดังกล่าว
เหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 เกิดจากแผ่นดินไหวขนาด 9.0 นอกชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งทำให้เกิดคลื่นสึนามิครั้งใหญ่และวิกฤตนิวเคลียร์ ตามข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น ณ ต้นปีนี้ ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนั้นทั่วประเทศรวม 15,900 ราย ขณะที่ยังคงมีผู้สูญหายอีกกว่า 2,500 ราย.
ที่มา Asahi Shimbun