สถานการณ์ที่ร้านทองหลายแห่งในฮ่องกงคึกคักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในสัปดาห์นี้ หลังจากราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทะลุระดับ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เป็นครั้งแรกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวฮ่องกงต่างพากันนำทองคำในครอบครอง ตั้งแต่ทองคำแท่งไปจนถึงแหวนและสร้อยคอ ออกมาขายเพื่อทำกำไรจากราคาที่ทะยานขึ้นถึง 50% ในปีนี้
ที่ร้านทอง Chong Kee ใกล้กับย่านศูนย์กลางธุรกิจของฮ่องกง มีผู้คนกว่า 50 คนยืนต่อคิวยาวเหยียดหน้าร้าน พร้อมกับทองคำแท่ง สร้อยข้อมือ สร้อยคอ และเครื่องประดับต่างๆ ในมือ เพื่อรอแลกเป็นเงินสด
เธเรส แลม ทนายความหญิงซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ต่อคิวอยู่ เผยว่าเธอกำลังจะขายทองคำที่เก็บสะสมมานานถึง 20 ปี ซึ่งมีทั้งทองคำแท่งและสร้อยข้อมือ โดยเธอวางแผนจะขายทองคำแท่งขนาด 5 ตำลึง (ประมาณ 6 ออนซ์) หลายแท่ง ซึ่งแต่ละแท่งมีมูลค่าเกือบ 222,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 934,920 บาท)
แลมกล่าวว่า "เป็นช่วงเวลาที่ดีมากที่จะขาย ฉันเก็บทองนี้มาเกือบ 20 ปีแล้ว" พร้อมเสริมว่าเธอจะได้กำไรหลายเท่าจากเงินลงทุน และตั้งใจจะขายเพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะเชื่อว่าราคาทองจะยังคงสูงขึ้นไปอีก "ทองคำเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยมากสำหรับฉันในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนแบบนี้ มันจับต้องได้และเก็บไว้ได้ตลอดไป แถมยังรักษามูลค่าได้ดีด้วย"
ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งผลักดันให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะ สินทรัพย์ปลอดภัย จนกลายเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปี 2025
ร้าน Chong Kee ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าให้ราคารับซื้อคืนที่น่าสนใจ ได้หยุดแจกบัตรคิวในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดี หลังจากมีผู้มารับคิวครบ 300 คนแล้ว บรรยากาศภายในร้านเต็มไปด้วยความวุ่นวาย มีการใช้ไฟพ่นไปที่ทองคำเพื่อทดสอบความบริสุทธิ์ ขณะที่เจ้าของร้านต้องชั่งน้ำหนักทองและนับเงินสดส่งให้ลูกค้าอย่างไม่หยุดหย่อน
...
เทอเรนซ์ ฮัง วัย 34 ปี เล่าว่าเขาได้นำทองของครอบครัวที่สะสมมานานหลายปี น้ำหนักรวมประมาณ 400 กรัม มาขาย ซึ่งรวมถึงเครื่องประดับทองที่ลูกชายได้รับเป็นของขวัญตอนอายุครบหนึ่งเดือนด้วย
"เรากำลังจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศเร็วๆ นี้ นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะขาย เพื่อหาเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับชีวิตใหม่ของเรา" เขากล่าว โดยมีภรรยาและลูกชายยืนอยู่ข้างๆ และเปิดเผยว่ามีแผนจะย้ายไปอยู่ที่สกอตแลนด์ เขาได้รับเงินสดจากการขายทองครั้งนี้ไปประมาณ 430,000 ดอลลาร์ฮ่องกง
นายชง เจ้าของร้าน กล่าวว่า "ตอนนี้ยุ่งมาก ความต้องการสูงจริงๆ คนอยากจะขายอย่างเดียว" โดยหน้าร้านมีป้ายเขียนด้วยลายมือติดไว้ว่า "วันนี้ไม่รับลูกค้าเพิ่มแล้ว กรุณากลับมาใหม่เช้าพรุ่งนี้เพื่อรับบัตรคิว แล้วรอเรียกตามหมายเลข"
สถานการณ์ในฮ่องกงแตกต่างจากตลาดทองคำในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งผู้จัดการร้านค้าหลายแห่งระบุว่ามีผู้บริโภคมาซื้อทองคำมากกว่าขาย โดยส่วนใหญ่เป็นการนำเครื่องประดับสไตล์เก่ามาแลกเปลี่ยนเป็นดีไซน์ใหม่ๆ เพราะยังคงเชื่อมั่นว่าราคาทองจะปรับตัวสูงขึ้นอีก.
ที่มา Reuters