เจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการ FBI ขึ้นศาลรัฐบาลกลางเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยเขาปฏิเสธความผิดทั้งหมด ในข้อหาให้การเท็จต่อสภาคองเกรสและข้อหาขัดขวางการสืบสวน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ (FBI) ขึ้นศาลรัฐบาลกลางในวันพุธที่ 8 ต.ค. 2568 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยตัวเขาให้การปฏิเสธความผิดต่อศาล ในข้อหาให้การเท็จต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯ และข้อหาขัดขวางการสืบสวนของสภา ในปี 2563 ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายกลางของสหรัฐฯ

โคมีย์เดินทางเข้าสู่ศาลรัฐบาลกลางก่อนเวลา 10.00 น. เล็กน้อย พร้อมกับทีมกฎหมาย รวมถึงภรรยาและ มัวรีน ลูกสาวของเขาที่ถูกไล่ออกจากการเป็นอัยการรัฐบาลกลางเขตใต้ของนิวยอร์กเมื่อเดือนก่อน นอกจากนั้น ทรอย เอ็ดเวิร์ดส์ จูเนียร์ ลูกเขยของโคมีย์ ซึ่งลาออกจากตำแหน่งอัยการเขตทางตะวันออกของเวอร์จิเนียหลังโคมีย์ถูกฟ้องร้อง ก็เดินทางมาด้วย

ตามรายงานของสำนักข่าว Associated Press การพิจารณาคดีในคดีของนายโคมีย์ถูกกำหนดไว้ในวันที่ 5 ม.ค. 2569

โคมีย์ต้องเข้ารับการบันทึกประวัติและพิมพ์ลายนิ้วมือ ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติสำหรับจำเลย ที่ศาลรัฐบาลกลางในเมืองอเล็กซานเดรีย รัฐเวอร์จิเนีย ก่อนที่จะถูกนำตัวขึ้นศาลและอ่านข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการโดยผู้พิพากษาเขตสหรัฐฯ ไมเคิล นัคมานอฟฟ์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางโดยโจ ไบเดนในปี 2021

ทั้งนี้ คณะลูกขุนใหญ่อนุมัติคำฟ้องเมื่อปลายเดือนกันยายน กล่าวหานายโคมีย์ว่า อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ FBI เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการสอบสวนของรัฐบาลกลาง ขณะที่ข้อกล่าวหาเรื่องให้การเท็จ มีที่มาจากการไต่สวนของรัฐสภาเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2020 โดยข้อหาดังกล่าวถูกยื่นฟ้องก่อนหมดอายุความห้าปีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

...

ผู้ยื่นฟ้องร้องข้อกล่าวหาดังกล่าวคือ ลินด์ซีย์ แฮลลิแกน อดีตทนายความส่วนตัวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำงานเป็นผู้ช่วยทำเนียบขาวจนถึงเดือนกันยายน ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอัยการสหรัฐฯ ประจำเขตตะวันออกของรัฐเวอร์จิเนีย แทนที่นาย เอริก ซีเบิร์ต ที่ถูกบีบให้ลาออก

ด้านนายแพทริก ฟิตซ์เจอรัลด์ อดีตอัยการสหรัฐฯ ประจำเขตเหนือของรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งเป็นตัวแทนของโคมีย์ ได้แจ้งต่อผู้พิพากษานัคมานอฟฟ์ว่า ทีมกฎหมายของโคมีย์มีแผนที่จะยื่นคำร้องขอให้ยกฟ้องคดี และจะโต้แย้งว่าอดีตผู้อำนวยการ FBI ผู้นี้เป็นเหยื่อของการดำเนินคดีที่มุ่งร้ายและเลือกปฏิบัติ

นายฟิตซ์เจอรัลด์ยังกล่าวอีกว่า เขากำลังวางแผนฟ้องร้องพิสูจน์ความถูกต้องทางกฎหมายในการแต่งตั้ง ลินด์ซีย์ แฮลลิแกน เป็นอัยการประจำเขตตะวันออกของรัฐเวอร์จิเนียด้วย โดยนักกฎหมายหลายคนมองว่า มีการทำผิดขั้นตอนในการแต่งตั้งเธอรับตำแหน่ง

อนึ่ง คดีของนายโคมีย์ถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่งความพยายามของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะทำให้กระทรวงยุติธรรมกลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง และเพื่อลงโทษศัตรูทางการเมืองของเขา

อัยการสูงสุดและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงยุติธรรมจะเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งทางการเมือง แต่โดยปกติแล้ว กระทรวงฯ จะดำเนินการโดยรักษาระยะห่างจากทำเนียบขาว เพื่อธำรงไว้ซึ่งการตัดสินใจที่เป็นอิสระซึ่งจำเป็นต่อการรักษาหลักนิติธรรม แต่ทรัมป์ได้ทำลายบรรทัดฐานนั้น และกล่าวว่าจะมีข้อกล่าวหาอื่นๆ ตามมาอีก

ทรัมป์ไล่นายโคมีย์ออกจากตำแหน่งในปี 2560 และได้แสดงความไม่พอใจต่ออดีตผู้อำนวยการ FBI ผู้นี้มานานหลายปี เนื่องจากบทบาทของเขาในการสืบสวนความเชื่อมโยงระหว่างการหาเสียงของทรัมป์ในปี 2016 กับรัสเซีย เพื่อดูว่ามีการแทรกแซงจากต่างชาติเกิดขึ้นหรือไม่

การไล่นายโคมีย์ออกเป็นเหตุให้มีการแต่งตั้งอัยการพิเศษ โรเบิร์ต มุลเลอร์ เข้ามารับช่วงต่อในการสืบสวน และรายงานฉบับสุดท้ายของมุลเลอร์ ได้ระบุรายละเอียดหลายกรณีที่ทรัมป์พยายามใช้อิทธิพลต่อการสอบสวน


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : the guardian