แผ่นดินไหวระดับ 6.9 เขย่าภาคกลางของประเทศฟิลิปปินส์ ทำให้ตึกถล่มหลายแห่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังประเมินความเสียหายและค้นหาผู้ประสบภัย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.9 นอกชายฝั่งตอนกลางของประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อคืนวันอังคารที่ 30 ก.ย. 2568 ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้อาคารและถนนได้รับความเสียหาย และมีไฟฟ้าดับในบางพื้นที่ ขณะที่หน่วยกู้ภัยกำลังค้นหาผู้ที่อาจได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้
นายวิลสัน รามอส เจ้าหน้าที่กู้ภัยในเกาะเซบู เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เทศบาลกำลังเข้าตรวจสอบอาคารสาธารณะและโรงยิมในเมืองซาน เรมิฮิโอ (San Remigio) กับเมืองโบโก (Bogo) ซึ่งพังถล่มลงมาหลังเกิดแผ่นดินไหวในทะเลนอกชายฝั่งทางตอนเหนือของเกาะเซบู เมื่อเวลา 21:59 น.วันอังคารตามเวลาท้องถิ่น
นายรามอสระบุว่า อาจมีผู้คนติดอยู่ใต้ซากอาคารที่พังถล่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังออกปฏิบัติหน้าที่ในเมืองซาน เรมิฮิโอ กับเมืองโบโก ซึ่งอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อย่างไรก็ตาม นายรามอสไม่ทราบแน่ชัดว่ามีผู้สูญหายกี่คน
นายรามอสบอกด้วยว่า ปฏิบัติการกู้ภัยเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากความมืดกับอาฟเตอร์ช็อกหลายครั้งที่ตามมา โดยสำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ระบุว่า ตรวจพบอาฟเตอร์ช็อกความรุนแรง 5.0 หรือมากกว่าได้ถึง 4 ครั้งหลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งแรก
...
ด้านสำนักงานแผ่นดินไหววิทยาท้องถิ่นของฟิลิปปินส์เตือนว่า อาจเกิดความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลเล็กน้อย และเรียกร้องให้ผู้อยู่อาศัยในเกาะกลาง คือ เลย์เต (Leyte), เซบู (Cebu) และ บิลิรัน (Biliran) "อยู่ให้ห่างจากชายหาดและอย่าไปยังชายฝั่ง"
ขณะเดียวกัน รัฐบาลท้องถิ่นจังหวัดเซบูรายงานว่า แผ่นดินไหวทำให้อาคารพาณิชย์และโรงเรียน ในเมืองบันตายันพังถล่มลงมา ขณะที่ถนนของหมู่บ้านหลายแห่งก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน
ส่วนบริษัทโครงข่ายไฟฟ้าแห่งชาติฟิลิปปินส์แจ้งว่า แผ่นดินไหวทำให้สายไฟขัดข้อง ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ทั่วจังหวัดเซบูและเกาะใกล้เคียงในภาคกลาง ซึ่งพวกเขากำลังประเมินขอบเขตความเสียหาย
นางปาเมลา บาริคัวโตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเซบู มีแถลงการณ์ถ่ายทอดสดผ่านทางเฟซบุ๊ก เรียกร้องให้ประชาชน "ตั้งสติและเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่เปิดโล่ง อยู่ห่างจากผนังหรือสิ่งปลูกสร้างที่อาจพังถล่ม และเฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อก"
เธอกล่าวด้วยว่า รัฐบาลจังหวัดกำลังประเมินสถานการณ์และติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่เทศบาลต่างๆ
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : yahoo